
อัล-เกาะดัรฺ การกำหนดของอัลลอฮ์
ไม่มีสิ่งใดรอดพ้นจากกำหนดของพระองค์ นอกจากมันได้ถูกบันทึกใว้หมดเเล้ว
โดย เชคอบูคอดียะฮ์ แปลเเละเรียบเรียงโดย อบูจัสมิน
การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์, เราขอความช่วยเหลือและขออภัยโทษต่อพระองค์ เราขอต่ออัลลอฮ์ให้รอดพ้นจากความชั่วร้ายที่มาจากตัวเอง และรอดพ้นจากผลพวงในความผิดพลาดของเราเอง ผู้ใดก็ตามที่อัลลอฮ์มอบทางนำให้ ย่อมไม่ใครสามารถให้เขาหลงผิดได้ เเละผู้ใดที่อัลลอฮ์ให้เขาหลงผิด ย่อมไม่มีทางได้พบทางนำ ฉันขอปฏิญานตนว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นได้ที่ควรคู่เเก่การเคารพภักดี นอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียวเท่านั้น โดยไม่มีการตั้งภาคีใดๆ ต่อพระองค์ และฉันขอปฏิญานตนว่าท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม) เป็นบ่าวเเละศาสนทูตของพระองค์
เเท้จริง คำพูดที่จริงที่สุดก็คือคัมภีร์ของอัลลอฮ์ เเละทางนำที่ดีที่สุดคือทางนำของท่านนบี(ศ้อลลัลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม) และสิ่งชั่วร้ายที่สุดคือสิ่งอุตริกรรม ทุกอุตริกรรมนั้นคือบิดอะฮ์ และทุกบิดอะฮ์คือความหลงผิด เเละทุกความหลงผิดนั้นอยู่ในไฟนรก
พี่น้องมุสลิมีน และมุสลิมะฮ์ทั้งหลาย หลักความเชื่อของอะฮ์ลุ้ซสุนนะฮ์ วั้ลญะมาอะฮ์ จะต้องเชื่อว่าไม่มีสิ่งใดรอดพ้นจากการกำหนดของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่มีใครหนีพ้นจากสิ่งที่ถูกจดบันทึกใว้เเล้วใน เลาฮิ้ลมัสตุ้ร ( اللوح المسطور ) อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงบันทึกทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นใว้ทั้งหมดเเล้ว
ไม่มีใครรอดพ้นจากสิ่งที่อัลลอฮ์เป็นผู้กำหนดไว้เเล้ว จาก(กอฎอเเละกอฏั้ร)ของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ไม่มีใครหนีพ้น หลีกเลี่ยงจากมันได้ นี่คือความเชื่อของอะฮ์ลุ้ซสุนนะฮ์ วั้ลญะมาอะฮ์ ที่อัลลอฮ์ทรงกำหนดเเก่ทุกคนว่าจะต้องเผชิญกับบททดสอบ และบทพิสูจน์ต่างๆ เเละจากบททดสอบเหล่านั้น อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ก็ได้ตระเตรียมการตอบเเทน และบทลงโทษเอาไว้ โดยอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงกำหนดแก่บางคน เป็นบทลงโทษเเก่เขา เป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ เนื่องจากเขาเลือกที่จะฝ่าฝืนต่อพระองค์ โดยเขามีสิทธิ์เลือกใช้วิธีการต่าง ที่อัลลอฮ์มอบให้ อัลลอฮ์ได้ ให้วิธีการต่างๆ เเก่เขา เป็นอัสบ้าบ(ต้นเหตุ) เพื่อให้เขาได้ “เลือกกระทำ” เเล้วเขาก็ปฏิบัติด้วยวิธีการเหล่านั้น แล้วอัลลอฮ์ก็ได้ตระเตรียมผลลัพท์ที่เกิดขึ้นสอดคล้องกับวิธีการ(อั้สบ้าบ) ที่เขาเลือกใช้ หากเขาเลือกวิธีการที่ถูกต้อง เป็นวิธีที่ฮะลาล, วิธีการที่ดี, อัลลอฮ์ก็จะตระเตรียมผลลัพท์ที่ดีให้เเก่เขา เเต่ถ้าหากเขาไปเลือกวิธีที่หะรอม, วิธีที่ต้องห้าม,สิ่งที่ฝ่าฝืนต่ออัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็จะตระเตรียมให้เเก่เขา เป็นผลลัพท์ที่เลวร้าย นี่คือความเข้าใจของเราในเรื่อง การกำหนดของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา
ดังที่อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสใว้ใน คำภีร์ของพระองค์ เกี่ยวข้องกับผู้ที่ใช้วิธีการที่ดี อัลลอฮ์ก็มอบความสะดวก ง่ายดายเเก่เขา :
فَأَمَّا مَنۡ أَعۡطَىٰ وَٱتَّقَىٰ
ส่วนผู้ให้(บริจาค)และยำเกรงต่ออัลลอฮ์
وَصَدَّقَ بِٱلۡحُسۡنَىٰ
และเชื่อมั่นในผลตอบเเทนที่ดีที่สุด
فَسَنُيَسِّرُهُۥ لِلۡيُسۡرَىٰ
เราก็จะให้เขาได้รับความสะดวก ง่ายดาย (ซูเราะฮ์ อัลลัยล์ 5-7)
ดังนั้น เมื่อเขาได้เลือกอั้สบ้าบ(สาเหตุ)ที่ดี วิธีการที่ดีตามบัญชาของอัลลอฮ์ ด้วยวิธีที่ฮะล้าล ฏอยยิบ และเขาเชื่อมั่นว่าจะได้รับผลตอบเเทนที่ดี อัลลอฮ์ก็จะมอบความสะดวก ความง่ายดายเเก่เขา จากวิธีการที่ถูกมอบให้เเก่ผู้คน ส่วนผลลัพท์ของมันอยู่ที่อัลลอฮ์ เเล้วอะไรคือวิธีการที่อัลลอฮ์กำหนดให้เเก่เขา? นั่นก็คือการที่อัลลอฮ์ให้เขามีทรัพย์สิน เเล้วเขาก็ใช้มันเพื่อบริจาค อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้ให้เขา เชื่อฟังต่อพระองค์ และเขาก็เชื่อฟังโดยดี อัลลอฮ์ทรงสั่งใช้ให้เชื่อมั่นในผลตอบเเทนที่ดี นั่นหมายถึง ญันนะฮ์ เป็นผลตอบเเทนที่ดีที่สุด ดังนั้นเมื่อเขาเลือกสิ่งเหล่านี้ อัลลอฮ์ก็กล่าวเเก่เขาว่า “เราก็จะให้เขาได้รับความสะดวก ง่ายดาย” ดังนั้น อัลลอฮ์ อัซวะญัล ทรงตอบเเทนเเก่คนที่เชื่อฟังพระองค์ เเละอัลลอฮ์ทำให้เขาสะดวกง่ายดาย เเละอัลลอฮ์จะช่วยเหลือเขา เเละพระองค์จะลงโทษผู้ทำชั่ว
เเละอัลลอฮ์ให้มนุษย์มีความสามารถ เเละมีวิธีการ ที่เขาเลือกจะกระทำ ซึ่งพวกเขาจะต้องถูกลงโทษ หากเลือกวิธีการที่ฝ่าฝืนพระองค์ เช่นการยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย เมื่อท่านต้องการผ่อนบ้านหลังใหญ่ ดอกเบี้ยจากการซื้อรถ เนื่องจากท่านอยากได้รถที่ดี ท่านก็เลือกจะผ่อนกับสถาบันการเงินดอกเบี้ย เพื่อจะได้ผ่อนรถดีๆ หรือท่านเห็นเด็กๆ ได้เรียน เเละท่านก็อยากให้ลูกของท่านได้เรียนด้วย เเล้วท่านเลือกไปกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา(ที่มีดอกเบี้ย) เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ชั่วร้าย เเละอัลลอฮ์ก็สั่งว่าอย่าเลือกวิธีเหล่านี้ อย่ายุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย, อย่าดื่มเหล้า, อย่าเล่นการพนัน, อย่าขโมย, สิ่งต่างๆ เหล่านี้ อัลลอฮ์ได้สั่งห้ามท่าน เเต่เมื่อใครเลือกเอาวิธีการที่หะรอม วิธีการที่ชั่วร้าย และไม่ถูกต้อง อัลลอฮ์ก็ได้ตระเตรียมผลลัพท์ที่เขาสมควรได้รับนั่นคือ การลงโทษจากพระองค์ เเต่ถ้าใครเลือกวิธีการที่ดี อัลลอฮ์ก็จะทำให้เขาสะดวกง่ายดาย นี่คือความยุติธรรมของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ส่วนคนที่เลือกด้านชั่ว อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ตรัสว่า
وَأَمَّا مَنۢ بَخِلَ وَٱسۡتَغۡنَىٰ
และส่วนบรรดาผู้ที่ถอดถอน (ไม่บริจาค)
وَكَذَّبَ بِٱلۡحُسۡنَىٰ
และปฏิเสธผลตอบเเทนที่ดีที่สุด
เพราะเขามองว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพึงอัลลอฮ์ เชื่อว่าทุกอย่างมาจากตัวเขาเอง เชื่อว่าทรัพย์สินรายได้ต่างๆ หามาได้เอง จะขโมยหรือกินดอกเบี้ย มันก็มาจากเขาเอง เขาจึงมองว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพิงกับอัลลอฮ์ เเละได้ปฏิเสธผลตอบเเทนที่ดีที่สุด ที่อัลลอฮ์ได้เตรียมไว้เเล้ว เเละอัลลอฮ์ ทรงตรัสว่า
فَسَنُيَسِّرُهُۥ لِلۡعُسۡرَىٰ
เราก็จะให้เขาได้ประสบกับความยากลำบาก ได้อย่างง่ายดาย (ซูเราะฮ์ อัลลัยล์ 8-10)
ดังนั้น เมื่อท่านใช้วิธีการที่หะรอม เลือกเอาอั้สบ้าบ(สาเหตุ)ที่ต้องห้าม อัลลอฮ์ทรงทำให้ง่ายดายสำหรับเขาที่จะพบกับชีวิตที่ยากลำบาก ผลลัพท์นั้นอยู่ที่อัลลอฮ์ และอั้สบ้าบอัลลอฮ์ได้เสนอให้เขาก่อนหน้าเเล้ว อัลลอฮ์ได้บัญชาและสั่งใช้ ในสิ่งที่เขาจะต้องปฏิบัติตาม และให้เขาได้เลือก เเล้วอัลลอฮ์ก็สั่งใช้ว่าจะต้องเลือกทางใด ผ่านวะฮีย์ของพระองค์ กีตาบบุลลอฮ์ และสุนนะฮ์ เช่นเดียววะฮีย์ที่ส่งมายังนบีและศาสนทูตก่อนหน้านี้ และท่านนบี มูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัมได้อธิบายเเก่บรรดาศอฮาบะฮ์ของท่าน ในทุกเรื่อง รวมถึงเรื่องกอฎอและฎอดั้รของอัลลอฮ์ แล้วพวกเขาก็ถามท่านนบีว่า ว่าทุกอย่างเลยหรือจะตายอย่างไร จะตายที่ใหน
ดังนั้น ไม่ว่าใครจะได้เข้าสวรรค์ หรือใครถูกโยนลงนรก อัลลอฮ์ทรงทราบดี ปากกาได้บันทึกเอาใว้หมดเเล้วใน “เลาฮุ้ลมะหฺฟูซ” ดังนั้น พวกเขาถามนบีว่า “โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ทำไมเราไม่ปล่อยให้เป็นไปตามบันทึก โดยไม่ต้องปฏิบัติอีกหละครับ ? ท่านนบีจึงตอบว่า “ไม่, ท่านจะต้องปฏิบัติการงานของท่าน เพราะทุกคนจะได้รับการอำนวยความสะดวกจากสิ่งที่พระองค์สร้างขึ้นเเก่เขา” (บันทึกโดยบุคคอรีย์ ,หะดีษหมายเลข. 4945; บันทึกโดยมุสลิม,หะดีษหมายเลข 2647.)
ดังนั้น ไม่อนุญาตแก่ให้เขาอยู่เฉยๆ และกล่าวว่า ถ้าสวรรค์ถูกเตรียมเเก่ฉันเเล้ว ฉันก็จะได้เข้าสวรรค์ หรือกล่าวว่า หากถูกกำหนดให้ลงนรก ก็จะได้เข้าไปในนั้น เพราะมันแปลกมากสำหรับคนที่พูดเช่นนี้กับด้านศาสนา เพราะในเรื่องดุลยาเขาจะไม่พูดแบบนี้เเน่นอน เช่น การที่อาหารจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็มาจากวัตถุดิบที่พวกเขาเลือกสรรค์ขึ้น ทำไมท่านต้องเลือกมันหละครับ ทำไมไม่พูดว่า มันถูกกำหนดใว้หมดเเล้วเราเเค่เอาเข้าปาก เพราะเขาจะต้องเลือกสิ่งที่ดีสำหรับเขา แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับศาสนากลับพูดว่าอัลลอฮ์ตระเตรียมสวรรค์ใว้เเล้ว
หากท่านอยากเข้าสวรรค์ อัลลอฮ์ทรงบัญชา ให้บริจาค, ถือศีลอดในเดือนรอมฏอน, ทำฮัจย์, อุมเราะฮ์, ทำดีต่อบุพการี ฯลฯ เเต่บางคนกลับเลือกทำสิ่งลามก, นอนหลับเลยเวลาฟะญัร, ละเลยคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์, เขาเลือกทางที่ตามอารมณ์ฝ่ายต่ำ เเต่เมื่อมีคนถามว่าทำไมเลือกทางนั้น เขาก็อ้างว่าอัลลอฮ์กำหนดใว้เเล้ว ใครได้เข้าสวรรค์หรือนรก
ซึ่งความคิดเช่นนี้ ไม่เป็นที่อนุญาตเพราะมุสลิมไม่รู้ว่าอะไรที่ถูกบันทึกใว้สำหรับเขา เเต่เขารู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์เลือกกระทำ เเละรู้ว่าสิ่งใดที่อัลลอฮ์สั่งใช้ และสิ่งใดที่อัลลอฮ์ทรงห้าม เเละรู้ว่าอะไรที่อัลลอฮ์ได้สัญญาใว้กับคนที่ทำความดี เเละอะไรที่จะต้องได้รับหากฝ่าฝืนต่อพระองค์
ดังนั้น เขาจะต้องเลือกกระทำในสิ่งที่ให้คุณประโยชน์ ท่านเคยเห็นคนที่นั่งอยู่เฉยๆ เเละรออาหารให้มาหาเขาบ้างมั้ยครับ ? เเล้วอ้างว่าอัลลอฮ์ กำหนดไว้เเล้วเเล้วว่าอาหารจะมาหาเขาเเน่นอน เเม้เขาจะนั่งรอเฉยๆ โดยที่ไม่ได้ออกเเสวงหา ไม่ได้ขอ ไม่ได้ออกไปใหน. ไม่มีใครคิดจะทำเช่นนั้น ทุกคนล้วนตื่นขึ้นมาก็ต้องมุ่งออกไปเเสวงหาปัจจัย จะต้องลุกขึ้นไปดื่ม ไปกิน เเสวงหาที่นอน เครื่องนุ่งห่ม เพราะนี่คือฟิตเราะฮ์(ธรรมชาติ)ของมนุษย์ ที่อัลลอฮ์สร้างพวกเขาให้ตื่นขึ้นมา มุ่งออกเเสวงหาปัจจัย
หรือบางคนอาจอยู่เฉยๆ เเละมองว่า “อะไรที่ถูกบันทึกเเก่ฉันเเล้ว มันก็จะต้องเกิดขึ้นกับฉัน” เลยไม่ทำอิบาดะฮ์ ไม่ทำความดีใดๆ เเละเชื่อว่าถ้าใครถูกบันทึกว่าได้เข้านรกก็จะได้เข้าในนรก และใครที่ถูกบันทึกว่า ได้เข้าสวรรค์ก็จะได้เข้าสวรรค์ แต่เมื่อมีคนมาหาเขา เเละตีเขาอย่างเเรง เเละทำร้ายลูกของเขา ก็กลับไม่อยู่เฉยๆ เเละไม่กล่าวว่า “สิ่งนี้ถูกกำหนดเเก่ฉันเเเล้ว เเละมันจะเกิดขึ้น” แต่เขากลับออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เเละเรียกร้องสิทธิ ทำไม่ใช้หลักการเดียวกันหละครับ โดบปล่อยให้คนตีทำร้ายไป เเล้วบอกว่า เป็นกำหนดของอัลลอฮ์ ฉันจะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น!
นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่า อัลลอฮ์ได้เชื่อมโยง “วิธีการ” เข้ากับ “ผลลัพท์” เเม้เเต่นก หรือสัตว์ต่างๆ จะไม่ทำตามความคิดที่ไร้ประโยชน์เช่นนี้ (ที่ได้กล่าวไป) เเค่นั่งรออยู่ในรัง ไม่บินออกไปหาอาหารกลับมา เพราะนี่คือการสร้างของอัลลอฮ์ ทุกอย่างถูกสร้างมาบนฟิตเราะฮ์ ดังนั้น นกมันจึงบินออกไปจากรังของมัน และใช้เวลาทั้งวัน เพื่อบินหาอาหาร เเละกลับไปยังรังของมันในตอนเย็น ด้วยอาหารที่เต็มท้อง จากริสกฺ ที่อัลลอฮ์มอบให้ จากที่มันได้ออกไปหา และผลลัพท์ของมันอัลลอฮ์ได้ตระเตรียมใว้เเล้ว ซึ่งเป็นไปได้ที่นกตัวนั้นออกไปเเล้วไม่เจออาหารเลย เเต่นกนั้นมันได้เลือกกระทำเเล้วส่วนผลลัพท์อัลลอฮ์เป็นผู้กำหนด ด้วยการที่ดินเเดนนั้นน อาจจะเเห้งเเล้ง ต้นไม้ไม่ผลิผล มันจึงไม่สามารถหาอาหารได้ แต่มันได้พยายามเสาะเเสวงหาปัจจัยเเล้ว
ดังนั้น อัลลอฮ์ ทรงสร้างทุกสรรพสิ่งมาด้วยฟิตเราะฮ์ ให้มันได้ออกไปเเละเเสวงหา ดังที่ อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮุวะตาอาลา ทรงตรัสว่า
فِطۡرَتَ ٱللَّهِ ٱلَّتِي فَطَرَ ٱلنَّاسَ عَلَيۡهَاۚ لَا تَبۡدِيلَ لِخَلۡقِ ٱللَّهِۚ ذَٰلِكَ ٱلدِّينُ ٱلۡقَيِّمُ وَلَٰكِنَّ أَكۡثَرَ ٱلنَّاسِ لَا يَعۡلَمُونَ
“(โดยธรรมชาติ) ของอัลลอฮ์ ซึ่งพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ทั้งหมดขึ้นมา ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในการสร้างของอัลลอฮ์ นั่นคือศาสนาอันเที่ยงตรง แต่ส่วนมากของมนุษย์ไม่รู้” (ซูเราะฮ์อัรรูม อายะฮ์ที่ 30)
เช่นเดียวกับที่ พระองค์ ซุบฮานะฮุวะตาอาลา ทรงตรัสว่า
قَالَ رَبُّنَا ٱلَّذِيٓ أَعۡطَىٰ كُلَّ شَيۡءٍ خَلۡقَهُۥ ثُمَّ هَدَىٰ
(มูซา)กล่าวว่า “พระเจ้าของเราคือ ผู้ทรงประทานทุกอย่างแก่สิ่งที่พระองค์ทรงสร้างแล้วพระองค์ก็ทรงชี้แนะแนวทางให้” (ซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 50)
ดังนั้น อัลลอฮ์ ทรงสร้างเราเเละทุกสรรพสิ่ง ทุกรูปแบบ เเละอัลลอฮ์ทรงให้ชี้นำ พระองค์ทรงสร้างสิ่งมีชีวิต เเต่ละชนิด เเละโดยให้ธรรมชาติของมันเป็นผู้เสาะเเสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ ด้วยความพยายาม และการลงมือกระทำ
บางคนอาจจะถามว่า “ทำไมต้องลงมือกระทำอีก ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถูกกำหนดใว้หมดเเล้ว” ที่จริงเเล้วเขากำลังหลอกตัวเอง เพราะทุกวันที่เขากำลังทำอยู่นั้น ก็เพื่อผลประโยชน์ของเขาเอง เเละตามความต้องการของเขาเอง เขาเเค่อ้างเรื่อง ก้อฏั้ร เพื่อจะไม่อิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ เเละไม่ทำความดี ไม่สำนึกจากผิดบาป ทั้งที่ในใจเขารู้ว่าสามารถทำแบบนั้นได้ สามารถละเลิกการกระทำสิ่งนั้นได้ เขารู้ว่าอัลลอฮ์สั่งใช้อะไร เเต่เขากลับไม่เลือกอิบาดะฮ์ ไม่เลือกทำความดี
อัลลอฮ์ให้ท่านได้เลือก เเละอัลลอฮ์ทรงรู้ดีว่าท่านจะเลือกทางใด แต่ท่านไม่มีทางรู้ว่าผลสุดท้ายของมันจะเป็นอย่างไร เเต่อัลลอฮ์ได้สั่งใช้ท่าน ให้หลีกเลี่ยงการทำชั่ว การทำบาป ฝ่าฝืน อิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ จงทำความดี ฯลฯ เเละด้วยพื้นฐานเหล่านี้ อัลลอฮ์ ก็ได้ตระเตรียมผลตอบเเทนที่ดีเอาใว้ นั่นคือสวนสรรค์อัลญันนะฮ์ ในทางกลับกัน หากเขาเลือกทำชั่ว ฝ่าฝืน โกหก คดโกง ขโมย ยุ่งเกี่ยวกับดอกเบี้ย ดื่มเหล้า ฯลฯ ผลลัพท์ของมันก็คือความโกรธกริ้วของอัลลอฮ์ เเละการลงโทษของพระองค์ นี่คือความเข้าใจของเราในเรื่องกำหนดของอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปจนกระทั่งวันกียามะฮ์ พระองค์ทรงบันทึกใว้หมดเเล้ว นี่คือความเชื่อของอะลุสสุนนะฮ์ วั้ลญ่ามาอะฮ์ เเละเราเข้าใจมันอย่างดี เเละไม่เราจะต้องเคลือบเเคลงสงสัยในเรื่องการกำหนดการของอัลลอฮ์
เเละอะลุสสุนนะฮ์ เชื่อว่าหากบางคนที่ไม่สามารถปฏิบัติคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ในบางเรื่องได้ เนื่องจากเขาไม่มีความสามารถก็ไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ตาม หากเขาคนนั้นเลือกไม่ปฏิบัติตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์เนื่องจากความขี้เกียจ หรือสนใจเเต่เรื่องดุลยาเป็นหลัก โดยละทิ้งคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็จะนับบุญบาปกับเขา เหตุที่เขาละทิ้งมั่น นี่จึงเป็นข้อเเตกต่างๆ ระหว่าง “ความขี้เกียจ” กับ “ไม่มีความสามารถ”
ดังนั้น โดยธรรมชาติของทุกคน จะต้องยอมรับเหตุผลเหล่านี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับหลักฐานมากมาย จากอัลกุรอานเเละสุนนะฮ์ ตามฟิตเราะฮ์ของท่าน เมื่อท่านมีความสามารถหรือมันเกิดประโยชน์กับท่าน ท่านก็จะทำมัน เเละด้วยฟิตเราะฮ์ของท่านเช่นกัน หากท่านขี้เกียจ ไม่ใส่ใจ ไม่สนใจ ท่านก็จะไม่ทำมัน เเต่หากใจของท่านต้องการกระทำ เเต่ท่านไม่มีความสามารถกระทำได้ ก็ไม่เป็นไร
เป็นความจริงที่ทุกคนไม่สามารถหนีจากกำหนดของอัลลอฮ์ได้ เเต่อัสบ้าบ(ต้นเหตุ,สาเหตุ,ปัจจัยตั้งต้น) ที่พระองค์สั่งใช้ จะนำพาไปสู่สิ่งที่ท่านต้องการ เมื่อท่านต้องการอะไรซักอย่างเช่น ต้องการสวรรค์ ที่มีเเม่น้ำหลายสายใหลผ่านมัน ท่านก็ต้องใช้อั้สบ้าบนำพาไปหาสิ่งนั้น เเต่ผลสุดท้ายจะเกิดขึ้นนั้นอยู่ในพระหัตถ์ของอัลลอฮ์
หมายถึง ท่านอาจจะต้องการอะไรบางอย่าง และท่านก็ใช้วิธีการต่างๆ แล้ว เเต่กลับไม่ได้ตามต้องการ ย่อมเป็นไปได้ หรือท่านพยายามในหนทางของอัลลอฮ์เเล้ว ทั้งละหมาด ทำฮัจย์ ซากาต ฯลฯ เเต่มีอะไรบางอย่างทำให้ท่านเปลี่ยนไปทำชั่ว ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน หากมันได้ถูกบันทึกไว้เเล้วมันก็จะเกิดขึ้น หากท่านกระทำการงานของชาวนรก ท่านก็จะต้องเข้านรก
ดังนั้น หากเขาใช้อัสบ้าบในตอนเเรกเเละเขาก็กลับทิ้งมัน เขาทำการงานที่จะนำไปสู่สรรค์ เเต่กลับละทิ้งมัน มันถูกบันทึกใว้หมดเเล้ว อัลลอฮ์ทรงรู้ว่าเขาจะใช้อัสบ้าบ เพื่อนำพาเข้าสวรรค์ และอัลลอฮ์ ก็รู้เหมือนกันว่า เขาจะทิ้งมัน เเล้วไปตามอารมณ์ฝ่ายต่ำ จะไปทำการงานของชาวนรก เเละจะต้องเข้าไปในนั้น
มีคนที่เรารู้จักเท่าใหร่เเล้ว ที่เราเห็นมากับตา คนที่เขาเคยทำความดี เเล้วเขาก็ละทิ้งมัน เราได้เห็นคนที่ตายลงในลักษณะเเบบนี้ -ซุบฮานัลลอฮ์- คนที่เขาหวังญันนะฮ์ เเต่เมื่อเขาสิ้นหวังกลับไปทำการงานของชาวนรก เมื่อเราเห็นคนประเภทนี้ เราก็ควรกล่าว “อัลลอฮุมุสตะอาน” -ขอให้อัลลอฮ์ชี้นำเขา-
นี่คือความจริง ท่านอาจจะลงมือปฏิบัติ เเต่ท่านก็ละทิ้งมัน หรือท่านอาจจะปฏิบัติเเละท่านก็ดำรงมั่นต่อไป ซึ่งผลลัพท์อัลลอฮ์ก็ได้ตระเตรียมเอาใว้เเล้ว เเม้เเต่ในเรื่องดุลยาก็ตาม
บางทีท่านปฏิบัติตามนบี ตามคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ เเละไม่ล้มเลิก ไม่สิ้นหวัง เเต่เมื่อบางอย่างเกิดขึ้นกับท่าน ไม่ได้อย่างที่ต้องการ ก็อย่าได้กล่าวว่า “ถ้าฉันทำอย่างนั้น อย่างนี้ มันจะไม่เกิดอย่างนั้น อย่างนี้” แต่ให้กล่าวว่า“อัลลอฮ์ทรงกำหนดมาแล้ว และพระองค์ก็ได้ทรงทำตามที่พระองค์ประสงค์แล้ว” ดังนั้น ท่านก็จงปฏิบัติการงานเหล่านั้นต่อไป สร้างอัสบ้าบของมัน เเละอย่ามัวเเต่โทษตัวเอง เพราะทุกอย่างอยู่ในพระหัตถ์ของอัลลอฮ์
เช่น การที่ท่านตั้งใจเรียน ทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ได้งานที่ต้องการ ใช้วิธีการต่าง ๆ แต่เมื่อส่งใบสมัครไป สัมภาษณ์งาน เขากลับไม่รับเข้าทำงาน … ก็จงกล่าวว่า “อัลลอฮ์ทรงกำหนดมาแล้ว และพระองค์ก็ได้ทรงทำตามที่พระองค์ประสงค์แล้ว” ไม่ใช่สิ่งอื่นใดเลย นอกจากกำหนดของอัลลอฮ์
وَاسْتَعِنْ بِاللَّهِ وَلاَ تَعْجِزْ وَإِنْ أَصَابَكَ شَىْءٌ فَلاَ تَقُلْ لَوْ أَنِّي فَعَلْتُ كَانَ كَذَا وَكَذَا
. وَلَكِنْ قُلْ قَدَرُ اللَّهِ وَمَا شَاءَ فَعَلَ فَإِنَّ لَوْ تَفْتَحُ عَمَلَ الشَّيْطَانِ
มีรายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ รอฎียันลอฮุอันฮุ กล่าวว่า เเท้จริงท่านเราะซูล ศ็อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ท่านจงขวนขวายในสิ่งที่เป็นประโยชน์เเก่ท่าน เเละจงขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์ และอย่าได้ท้อเเท้เป็นอันขาด เเละหากสิ่งใดเกิดขึ้นกับท่านเเล้ว ก็อย่าได้พูดว่า หากว่าฉันทำอย่างนี้ก็จะได้อย่างนั้นอย่างนี้ เเต่จงพูดว่า นี่คือกำหนด (กอดัร) ของอัลลอฮ์ เเละสิ่งใดที่พระองค์ทรงประสงค์ พระองค์ก็ทรงกระทำให้เป็นไปตามนั้น เพราะคำว่า “หากว่า” หรือ “ถ้าว่า” เป็นการเปิดทางให้ชัยฏอนทำงานของมัน” [หะดีษบันทึกโดย อิหม่ามมุสลิม หมายเลขที่ 2664]
อัลลอฮ์ทรงกระทำตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ดังนั้น หากมันเป็นไม่เป็นไปตามที่หวัง ก็จงพอใจกับผลของมันเนื่องจากท่านได้พยายามเเล้ว และกล่าวให้ว่า “ฉันจะไม่ตำหนิตัวเองเเละเชื่อว่า อัลลอฮ์ได้กำหนดใว้เเล้ว เเละเป็นไปได้ว่าสิ่งที่ฉันเลือกนั้นมันเลวร้ายกับสำหรับฉันก็ได้ ดังนั้น สิ่งที่อัลลอฮ์ทรงถอดถอนไปนั้น มันก็เป็นสิ่งที่ดีกว่า” แล้วท่านก็จะรู้สึกพอใจกับกำหนดของอัลลอฮ์
เพราะอัลลอฮ์ทรงบันทึกใว้หมดเเล้วใน “เลาหิ้ลมะอฺฟู้ด” อัลลอฮ์ ได้สั่งปากกา ให้จดบันทึก ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นไปจนกระทั่งวันเเห่งการฟื้นคื้นชีพ เเละสิ่งนี้เกิดขึ้นตั้งเเต่ 50,000 ปี ก่อนการสร้างชั้นฟ้าเเละเเผ่นดิน และบัลลังค์ของพระองค์อยู่เหนือน้ำ [หะดีษรายงานโดยอิหม่ามมุสลิม]
หากท่านอยากมีลูก ท่านก็จะต้องเเต่งงาน ไม่ใช่นั่งเฉยๆ เเละบ่นว่าฉันอยากมีลูก โดยไม่ได้เริ่มเป็นขั้นตอน ด้วยการเเต่งงาน บางคนเพียงอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไร ผ่านไปปีเเล้วปีเล่า ไม่พยายาม ไม่ปรึกษาใคร ไม่พยายามเเต่งงาน เเล้วเขาจะมีลูกได้อย่างไร หากท่านไม่ลงมือทำ เเล้วมันจะเกิดผลลัพท์ได้อย่างไร แต่หากท่านลงมือทำ ผลลัพท์ของมันอยู่ที่อัลลอฮ์ หรือเป็นได้ที่ท่านใช้ลงมือกระทำเเล้ว เช่น ท่านเเต่งงานเเล้ว เเต่กลับไม่มีลูก อัลลอฮ์ทรงกำหนดใว้เเล้ว เเต่หากไม่ทำอะไรเลย มันก็เป็นไปไม่ได้เลย
ดังนั้น ไม่มีข้อเคลือบเเคลงใดๆ ว่าทุกสิ่งถูกอย่างนั้น ถูกจดบันทึกใว้หมดเเล้วในสมุดบันทึก เเต่ทุกคนก็ต้องสร้างอัสบ้าบให้เกิดขึ้น ด้วยการลงมือปฏิบัติ ยิ่งท่านปฏิบัติมากเท่าใหร่ อัลลอฮ์ก็ให้เข้าใกล้เป้าหมายมากเท่านั้น แต่บางครั้งอัลลอฮ์ไม่ทำให้ท่านได้รับสิ่งที่หวัง(หมายถึงเรื่องดุลยา) ส่วนเรื่องอาคีเราะฮ์ ยิ่งท่านทำความดี รักษาเจตนาบริสุทธ์เพื่ออัลลอฮ์ เเละมีความซื่อตรงต่อพระองค์ เเล้วอัลลอฮ์จะให้ท่านได้รับสวรรค์ เพราะอัลลอฮ์ได้สัญญาใว้เเล้ว ส่วนในเรื่องดุลยา หากท่านพยายาม อัลลอฮ์ก็จะมอบความสะดวกง่ายดายเเก่ท่าน
เราขอต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงประทานความง่ายดายเเก่เรา เราขอต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา เพิ่มพูนความดีเเก่เรา เเละประทานผลตอบเเทนที่ดีที่สุดทั้งในดุลยาเเละอาคีเราะฮ์ และเราขอต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา ทรงทำให้เราทุกคนปรารถนาในการทำความดี
เว็ปไซต์ : https://www.abukhadeejah.com/
ถอดจากไฟล์เสียงคุตบะฮ์ : https://www.salafisounds.com/no-one-can-escape-the-determinate-decree-nor-can-anyone-exceed-what-has-been-written-for-him-khutbah-by-abu-khadeejah/
เสริมจากโพสต์ อ.อิสหาก พงษ์มณี นักวิชาการชมรมอัซซะละฟิยูน
#อัลก้อดอฺวัลก้อดัรคือ
1-คือความล่วงรู้ของอัลลอฮ์
2-ถัดมาคือบันทึกของพระองค์
3-ถัดมาคือพระประสงค์ของพระองค์
4-และสุดท้ายคือการสร้างของพระองค์
ประเด็นความเปลี่ยนแปลง(ลบไม่ลบที่บันทึกไว้แล้ว) สะลัฟอธิบายไว้สามทาง
1-อัลลอฮ์อาจลบในส่วนที่คัดลอกให้มะลาอิกะห์มาดำเนินการยกเว้นเรื่องตกนรกหรือขึ้นสวรรค์รวมถึงเรื่องความตาย
2-อัลลอฮ์อาจลบให้ได้หมดยกเว้นต้นฉบับ (อุมมุ้ลกิตาบ)
3-อัลลอฮ์อาจลบหรือไม่ลบได้ทั้งหมดโดยไม่จำกัด
คำอธิบายแรกพิจารณาถึงการดำเนินการของมะลาอิกะห์และผลสรุปสุดท้ายของบันทึก
คำอธิบายที่สองใกล้เคียงกับคำอธิบายแรก
คำอธิบายที่สามพิจารณาถึงเดชานุภาพของอัลลอฮ์ว่าอยู่เหนือการบันทึกใดๆ
หากพิจารณาให้ดีๆ และถ่องแท้แล้วทั้งสามคำอธิบายมิได้ค้านกันแต่อย่างใด หากแต่เป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมดเพียงแต่จะพิจารณาในบริบทใด
ไม่ว่าเราจะทำดีหรือไม่ดีล้วนอยู่ในบันทึกทั้งหมดทั้งสิ้นทั้งปวง การพูดว่าอัลลอฮ์ไม่เกี่ยวกับการกระทำผิดของเรา เป็นคำพูดที่สะท้อนความไม่เข้าใจต่อหลักอัลก้อดออฺวัลก้อดัรและถือว่าเป็นความสับสนของผู้พูดเอง
แม้แต่ใบไม้สักใบเดียวที่ร่วงหล่นลงกลางป่าใหญ่ก็อยู่ในบันทึกอันล่วงหน้าของพระองค์ที่เรียกว่า “อุมมุ้ลกิตาบ” สิ่งที่ถูกบันทึกไว้ในอุมมุ้ลกิตาบก็คือ อัลก้อดออฺวัลก้อดัรของพระองค์
ลำดับของอัลก้อดออฺวัลก้อดัร คือ
1-รู้
2-บันทึก
3-ประสงค์
4-สร้าง
อย่าลัดขั้นตอนเด็ดขาดเพราะจะทำให้สับสนและไขว้เขว คือพระองค์ทรงรอบรู้ล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดหรือไม่เกิดรวมถึงอะไรต้องมีรูปลักษ์และคุณสมบัติอย่างไรปริมาณเท่าใดและจะสิ้นสุดอย่างไร แล้วพระองค์จึงบันทึกความเป็นไปเหล่านั้นไว้บันทึก ณ ที่พระองค์
เมื่อพระองค์ทรงประสงค์พระองค์ก็จะให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นซึ่งก็คือการสร้างของพระองค์นั่นเอง ไม่มีสิ่งใดหลุดรอดพ้นหรืออยู่นอกเหนือบันทึกอันล่วงหน้าของพระองค์ และไม่มีสิ่งใดที่เล็ดลอดหลุดพ้นไปจากการสร้างของพระองค์ และไม่มีสิ่งใดอยู่เหนือพระประสงค์ของพระองค์