ประเด็นสำคัญในบทความนี้
– อย่าปล่อยให้ผู้รู้ชั่วหลอกคุน เพื่อสร้างความเกลี่ยดชัทางศาสนาและนำไปสู่ความรุนเเรง
– ฟัตวาของเขาที่โน้มเอียงไปสู่การใช้ความรุนเเรง ความสุดโต่ง และไม่ได้รับการดำเนินคดีใดๆ จากประเทศต้นทาง (อิยิปต์)
ข้อมูลบุคคล
ชื่อ : ยุซุฟ อัล-กอรฏอวีย์
สัญชาติ : เกิดที่อิยิปต์ สัญชาติการ์ต้า
ภูมิลำเนา : โดฮา ประเทศการ์ต้า ตั้งเเต่ปี 1961
อาชีพ : ผู้นำทางจิตวิญญานของกลุ่มอิควาน อัล-มุสลิมูน
หัวหน้าสภาอุละมาอฺยุโรปเพื่อฟัตวาเเละวิจัย
ผู้ร่วมก่อตั้งเว็ปไซต์ : IslamOnline.net
สถานะทางกฎหมาย : ถูกบอยคอตจากอิยิปต์ตั้งเต่ปี 1997
ไม่ไปรายงานตัวในคดีตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 2015
มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ก่อการร้าย ของซาอุดิอารเบีย อิยิปต์
สหรัฐอาหรับเอมิเรต และบาห์เรน
สื่อ : เป็นเจ้าของรายการในช่องอัล-จาซีเราะฮ์ ภาคอาหรับ
“อัช-ชารีอะฮ์ วัล-ฮายาต” กฏหมายเเละชีวิต ออกอากาศทางช่อง
อัล-ฮายาต ทีวี ช่อง บีบีซีภาคภาษาอาหรับ ช่อง Palestinian Authority
ช่องอัล-ฟาริอีน ช่องอัล-ฮิสาร ทีวี มีผู้ติดตามมากกว่าสี่ล้านคน ทั้งในทวิตเตอร์ เเละในทวิตเตอร์
Jeddah : ยุซุฟ อัล-กอรฏอวีย์ คือรายถัดไปที่เราจะกล่าวถึงกันในบทความชุด “นักเทศนาเเห่งความเกลียดชัง” เขาคือ หนึ่งในผู้นำทางจิดวิญญาณของกลุ่มอิควาน อัล-มุสลิมูน องค์กรการเมือง-กึ่งศาสนา ที่ถูกคาดโทษ และถูกเนรเทศ โดยกลุ่มประเทศอ่าวอาหรับ รวมถึงชาติตะวันตกอีกหลายประเทศ เเละยังมีสมาชิกกลุ่มอิควานอีกหลายคน ที่ตกเป็นผู้สงสัยในการสร้างความเกลียดชังทางศาสนา และเผยเเพร่ลัทธิสร้างความรุนเเรง เพื่อให้บรรลุสู่อำนาจทางการเมือง
จากทวิตล่าสุดของอัล-กอรฏอวีย์ ได้อ้างว่าเขานั้นไม่ใช่ นักเผยเเพร่ เเห่งความเกลียดชัง และอ้างว่าได้ใช้เวลา 25 ปี ในการเผยเเผ่ทางสายกลางเเห่งความพอดี เขากล่าวว่า “ฉันยืนหยัดต่อต้านความรุนเเรงสุดโต่งมาเกือบ 25 ปี ฉันเห็นภัยคุกคามของมันทั้งทางศาสนาเเละทางดุลยา(ทางโลก)ในผู้คนเเละสังคม และฉันได้ใช้ปากกา คำพูดเเละคำสอน เพื่อสนับสนุนการเรียกร้องสู่ความพอดี และปฏิเสธ การเลยเถิด เเละความหย่อนยาน ไม่ว่าในประเด็น ฟิกฮ์ และฟัตวา (นิดตศาสตร์อิสลามและข้อตัดสินของอิสลาม) หรือในเรื่องตับลีฆและดะอฺวะฮ์(ทางนำเเละเผยเเผ่)
เเต่เมื่อเราย้อนกลับไปดูความเป็นจริงของเขา เรากลับเห็นเเต่สิ่งตรงกันข้ามเเทบทั้งสิ้น เขาเป็นผู้ที่เรียกร้องให้มีการระเบิดพลีชีพฆ่าตัวตาย โดยเฉพาะในเมืองปาเลสไตน์ ได้ออกมาพูดต่อต้านชุมชนชาวยิวอยู่บ่อยครั้ง รวมทั้งการออกฟัตวาที่ดูหมิ่นสตรี
มีฟัตวาหนึ่งในเว็ปไซต์ของเขา เขากล่าวว่า “การตายชาฮีดนั้นคือจุดสูงสุดของการญีฮาด” และในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ ในรายการนิวส์ไนท์ เขาได้กล่าวสรรเสริญคนที่ไประเบิดพลีชีพในพื้นที่ยึดครองของอิสระเอลว่า เป็นคนที่สละชีพในนามของพระเจ้า ยุซุฟ กอรฏอวีย์ กล่าวว่า “ฉันสนับสนุนการระเบิดพลีชีพ และไม่ใช่เเค่ฉันคนเดียว”
เขาส่งเสริมให้คนที่ไม่ได้ไปร่วมรบกับมุญาฮิดีน ช่วยกันสนับสนุนเงินเเทน โดยให้ระดมทุนกันจากทุกสารเเห่ง ทั่วโลก สิ่งนี้ต่างตรงข้ามกับสิ่งที่เขากล่าวใว้ในทวิต ว่าเขานั้นยืนหยัดต่อต้านลัทธิก่อการร้าย
อัล-กอรฏอวีย์ ได้ออกฟัตวา อนุญาตให้โจมตีชาวยิวในทุกที่ ปรากฏในผ่านสื่อัล-จาซีรา ภาคภาษาอาหรับ ในเดือนมกราคม ปี 2009 เขากล่าวว่า “โอ้ พระเจ้าของฉัน .. โปรดจงจัดการกับศัตรูของท่าน ศัตรูของอิสลาม … โอ้พระเจ้าของฉัน จงจัดการกับพวกรุกรานยิวทั้งหลายผู้ทรยศ …โอ้พระเจ้า จงนับจำนวนพวกเขาทั้งหมด และสังหารพวกเขาที่ละคน จนกระทั่งไม่เหลือใครอยู่ซักคนเดียว” ซึ่งความเกลียดชังของเขานี้มีความคล้ายคลึงกับความเกลียดชังที่ฝังลึกของคนยุโรป
ในรายการทีวีของเขา เมื่อปี 2013 มีการเเผ่ยเเพร่สัญญานดาวเทียมไปทั่วโลกจากกรุงโดฮา อัล-กอรฏอวีย์ ก่นด่าประเทศมุสลิมทั้งหลายว่า อ่อนเเอ และเรียกร้องให้ประชาชน โค่นล้มรัฐบาลเหล่านั้นให้หมด และประกาศทำสงครามกับทุกคนที่ต่อต้านกลุ่มอิควาน และกล่าวตัดสินพวกเขาว่าเป็น “เคาะวาริจ” (ศัตรูของอิสลาม)
แล้วจากนั้นก็เกิดการประท้วงต่อต้านประธานาธิปตีมุรซีย์ขึ้นในยิปต์ ซึ่งเป็นตัวเเทนของกลุ่มอิควาน เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2013
อัล-กอรฏอวีย์ คือ ผู้สุดโต่งในอิสลามเเละชอบดูถูกเหยียดหยามความเป็นยุโรป รวมถึงวัฒนธรรมของพวกเขา ซึ่งดูได้จากหนึ่งในบรรยายของเขาทางช่องการ์ต้าทีวี เมื่อปี 2007
“ฉันคิดว่า อิสลามจะพิชิตยุโรป โดยไม่ต้องใช้ดาบหรือการต่อสู้ใดๆ พวกยุโรปเป็นพวกบ้าวัตถุนิยม ด้วยกับปรัชญาที่เต็มไปด้วยความสำส่อน และปกครองโลกนี้ด้วยความผิดต่อศีลธรรม
คิดเเต่เรื่องของตัวเอง เเละเอาเเต่ใจตัวเอง” เขายังกล่าวอีกว่า “มันคือช่วงเวลาที่ลุกขึ้น เเละหาทางออกต่อสิ่งนี้ และจะไม่มีทางใดที่จะดีไปกว่าอิสลาม”
ผู้สังเกตการณ์ในตะวันออกกลาง ต่างงุนงง กับกรณีการสนับสนุนของประเทศการ์ต้า และมอบสัญชาติให้เเก่ คนที่มีอุดมการณ์ที่จะนำไปสู่การก่อความไม่สงบเเก่บ้านเมืองอย่าง อัล-กอรฏอวีย์ โดยเฉพาะตั้งแต่เมื่อโดฮา อ้างว่า จะทำสงครามต่อต้านกลุ่มก่อการร้าย

อามี้รของกาตาร์อวยพรอัล-กอรฏอวีย์ ที่งานรอมฎอนประจำปีของท่าน ที่จัดสำหรับผู้นำศาสนาในเดือนมิถุนายน 2017 เขาได้รับเกียริตให้นั่งถัดจากอามี้รเเห่งการ์ต้า
นี่ก็เป็นเหตุผลสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้กลุ่มประเทศที่ต่อต้านก่อการร้ายอย่างซาอุดิอารเบีย สหัฐอาหรับเอมิเรต อิยิปย์ และบาร์เรน ร่วมกันบอยคอต การ์ต้า เนื่องจากโดฮาได้สนับสนุนการเผยเเพร่ลัทธิก่อการร้ายเเละสนับสนุนการดำเนินงานของกลุ่มก่อการร้าย
ก่อนหน้านี้ ผู้นำอัลกออิดะฮ์ อย่างอุซามะฮ์ บิน ลาดิน ได้กลายเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพของโลก เเละเมื่อเขาได้ทำให้การก่อการร้ายกระจายไปยังส่วนต่างๆ ของโลก ทางการริยาดจึงได้ดำเนินการถอนสัญชาติเขาออกจากการเป็นพลเมืองของซาอุดิอารเบีย
ผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองต่างก็รู้สึกว่า การ์ต้า ควรจะทำสิ่งเดียวกันแบบนี้ กับยุซุฟ อัล-กอรฏอวีย์ นักศาสนาผู้ทรยศ ซึ่งถูกตั้งข้อหาว่าอยู่เบื่องหลังการให้ลอบสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองในประเทศอียิปต์
กาตาร์ควรจะส่งตัวเขาเเก่อียิปต์ แต่ไม่ทำ กลับให้สิทธิการเป็นพลเมืองแก่เขาแทน
ในการสัมภาษณ์พิเศษปี 2017 กับอาหรับนิวส์เกี่ยวกับการประชุม Doha Forum เชคมุฮัมมัด บิน อับดุล รอฮ์มาน อัล-ตานี รัฐมนตรีต่างประเทศของกาตาร์ ถูกถามว่า ทำไมประเทศของท่านยังคงให้การสนับสนุน อัล-กอรฏอวีย์ เขาให้คำอธิบายว่า “เขาคือพลเมืองของการ์ต้า เป็นผู้ถือสัญชาติการ์ต้า และเขาก็มีอายุมากเเล้ว เราไม่สามารถให้เขาออกจากการ์ต้าได้”
และยังกล่าวต่อไปอีกว่า “รัฐธรรมนูญกาตาร์ไม่อนุญาตให้มีการส่งพลเมืองกาตาร์ ไปยังศาลยุติธรรมต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศอาหรับหรือไม่ใช่ประเทศอาหรับ
ซัลมาน อัลอันซอรี ผู้ก่อตั้งคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์แห่งประเทศซาอุดิอาระเบียอ้างถึงกฎหมายว่าด้วยการลี้ภัยทางการเมืองซึ่งประกาศโดยกาตาร์
เขากล่าวว่า “สิ่งนี้ให้สิทธิ์ผู้ก่อการร้ายและพวกหัวรุนแรงภายใต้ข้ออ้างของผู้ลี้ภัย“ ที่สำคัญที่สุดคือการหลบหนีจากการดำเนินคดีตามกฎหมาย”
เจตนาและวัตถุประสงค์ทั้งหมด ที่เขาเพิ่มกฏหมายเข้าไปนั้น ก็เพื่อให้สิทธิเเก่ผู้ก่อการร้าย ในการให้ที่พักพิงและการเป็นพลเมืองของการ์ต้า และสามารถเดินทางไประหว่างรัฐได้อย่างอิสระโดยใช้ชื่อและสัญชาติปลอม