มุสลิมโดนกดขี่ทั่วโลก เเต่ทำไมสะละฟีย์กลับห้ามออกมาประท้วงเเละคว่ำบาตรสินค้า
ประเด็นคำถาม เกี่ยวกับมันฮัจญ์
โดยเชคอบูคอดียะฮ์ อับดุลวาลีด จากมักตะบะฮ์สะละฟียะฮ์
เว็ปไซต์ abukhadeejah.com
แปลโดย อบูจัสมิน [ปรับปรุง 25 กรกฏาคม 2564]
คำถามที่ 4
มีมุสลิมถูกกดขี่ข่มเหงในหลายประเทศทั่วโลก เช่น ปาเลสไตน์ เคชเมีย ซีเรีย และที่อื่นๆ ที่มีมุสลิมอาศัยอยู่ เราจะพบว่าสะละฟีย์ ไม่เคยเห็นด้วย ในการเรียกร้องให้ออกไปประท้วงต่อต้านผู้อธรรม หรือเรียกร้องให้บอยคอตสินค้าของประเทศเหล่านั้น กรุณาให้ความอธิบายหน่อยครับว่า ทำไมสะละฟีย์ถึงไม่เคยออกมาเรียกร้องความยุติจากความอธรรมเหล่านั้น ?
คำตอบ
อัล-ฮัมดุลิลลาฮิ ร้อบบิ้ล อาละมีน วัสศอลาตุ วัสลามุ อะลา อัชรอฟิล มุรซาลีน วาอะลาอาลิฮิ วะซอบิฮ์ อัจมาอีน อัมมา บะดฺ
ประเด็นคำถามนี้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และช่วงเวลานี้ เป็นความจริงที่ว่ามีมุสลิมถูกกดขี่ในส่วนต่าง ๆ ของโลก จริงอยู่ มุสลิมต้องทุกข์ทรมานด้วยกับการกระทำของผู้ปฏิเสธศรัทธา รวมทั้งการกระทำของศัตรูอิสลาม ไม่ว่าจากพวกรอฟิเฎาะฮ์ เคาะวาริจ เเละพวกอื่นๆ
ท่านได้ถามถึงมุสลิมที่ถูกกดขี่ในประเทศต่างๆ เช่น ในปาเลสไตน์ เเคชเมียร์ อินเดีย และซีเรีย นี่คือความจริงที่เกิดขึ้น และในส่วนที่สองของคำถามเกี่ยวกับเรื่องบอยคอตสินค้า
การที่สะละฟีย์ไม่สนับสนุนการเรียกร้องให้ออกมาประท้วง หากท่านพูดถึง “การประท้วง” เจตนาของท่านก็น่าจะหมายถึงการออกมาเดินขบวนตามท้องถนน และประท้วงต่อต้านผู้มีอำนาจ คำถามนี้สามารถตอบได้หลายเเนวทาง ต่อไปนี้จะเสนอเเนวทางเเละวิธีการเเก้ปัญหาที่สำคัญนี้ อินชาอัลลอฮ์
การประท้วงเดินขบวนตามท้องถนนนั้น ไม่ปรากฏหลักฐานใดๆ ในเรื่องนี้ ทั้งจากอัลกุรอาน เเละสุนนะฮ์ การออกมาประท้วงตามท้องถนนนั้น ไม่มีหลักฐานใดนำมาอ้างอิงได้เลย
ส่วนการสั่งใช้ความดี และห้ามปรามความชั่ว คือการอิบาดะฮ์อย่างหนึ่ง ดังนั้น มันจะสอดคล้องกับเเนวทางของท่านนบี ซึ่งท่าน -ศ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ใครก็ตามในหมู่พวกท่านที่เห็นความชั่วร้ายเขาจงเปลี่ยนแปลงมันด้วยมือของเขา หากเขาไม่สามารถก็ด้วยลิ้นของเขา และหากไม่สามารถก็ด้วยใจของเขา และนั้นคืออิหม่านที่อ่อนแอที่สุดแล้ว” (หะดีษเศาะฮีหฺ บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 49)
ดังนั้น ผู้สนับสนุนให้ออกประท้วงตามท้องถนนอาจจะกล่าวว่า “จงดูซิ ศาสนทูตของอัลลอฮ์ -ศ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม- กล่าวว่า “ใครก็ตามในหมู่พวกท่านเห็นความชั่วร้าย เขาจงเปลี่ยนมันด้วยมือของเขา หากเขาไม่สามารถก็ด้วยลิ้นของเขา..” ดังนั้น เราออกกันไปเดินขบวน ออกกันไปตะโกนกันตามท้องถนนกันเถิด เพื่อต่อต้านผู้อธรรม.” เเต่พวกเขามีความผิดพลาดในการนำหะดีษไปใช้เป็นหลักฐานในการห้ามปรามความชั่วร้าย เนื่องจากท่านนบีเเละบรรดาศอฮาบะฮ์ไม่ได้ใช้หะดีษนี้เพื่อออกไปประท้วง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้นตามที่พวกเขาคิด ซึ่งถ้าเข้าใจเช่นนั้นจริงท่านนบีก็คงสั่งให้บรรดาศอฮาบะฮ์ออกไปประท้วงในเมืองมักกะฮ์ แต่พวกเขากลับไม่ทำ เเละไม่นำวิธีการที่ต้องห้ามมาใช้
แต่กลุ่มหลงผิดนำหะดีษนี้มาเป็นหลักฐานในการออกไปประท้วงบนท้องถนน โดยอ้างว่า “เป็นการห้ามปรามความชั่ว” เป็นการอิบาดะฮ์ และเป็นการญิฮาดในหนทางของอัลลอฮ์ พวกเขาอ้างว่านี่เป็นหลักฐานในการอิบาดะฮ์อย่างหนึ่ง ด้วยสิ่งที่พวกเขาอุตริกันขึ้นมาอย่างนั้นหรือ ? เเล้วใหนหละคำสั่งจากหะดีษที่มาจากท่านนบี -ศ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะวัลลัม- ที่ชี้ให้เห็นว่าท่านได้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนเพื่อต่อต้านพวกกุฟฟ้าร เเละผู้กดขี่ ? ใหนหละหลักฐาน ? ไม่มีมุสลิมโดนกดขี่ในช่วงเวลาของท่านนบีหรือ ? เเล้วพวกไม่ออกไปเดินขบวนกันตามท้องถนนหรือครับ ? พวกเขาไม่ได้มาร้องตะโกนขับไล่อบู ญะฮัล และอบู ซุฟยาน (ผู้นำในตอนนั้น)หรือ ? มีศอฮาบะฮ์ท่านใด หรือท่านนบี -ศ้อลลัลลอฮุอาลัยฮิวะซัลลัม- เคยทำสิ่งนี้หรือ ? พวกเขาไม่ไดทำแบบนั้นเพื่อห้ามความชั่วร้ายหรือ? คำตอบคือ ไม่มีเลย เเล้วทำไมพวกคุณถึงทำหละครับ ?
บรรดาศอฮาบะฮ์ -รอฏิยันลอฮุอันฮุม- ก็เคยประสบกับความยากลำบากภายใต้การกดขี่ของฮัจยาจ อิบนุ ยุซุฟ เช่นเดียวกับตาบิอีน อับดุลลอฮ์ อิบนุ ซุเบร ซอฮาบีย์ -รอดียันลอฮุอันฮุมา- ที่ถูกสังหารโดยฮัจยาจ อิบนุ ยุซุฟ ท่านถูกตรึงกางเขนอยู่ในเมืองมักกะฮ์ และกะบะฮ์ยังถูกทำลาย และนี่คือช่วงเวลาหลังจากคอลีฟะฮ์ทั้งสี่ ไม่มีศอฮาบะฮ์ -รอฏิยันลอฮุอันฮุม- ซักท่านเดียว ที่ออกมาเดินขบวนตามท้องถนน พวกเขาไม่เคยออกมาประท้วง เพราะอะไรหนะหรือ ? เพราะนี่ไม่ใช่การเเก้ปัญหาตามหลักการอิสลาม ซ้ำยังจะนำไปสู่ความเสียหายมากกว่าเดิม เเละหากท่านอยากพิสูจน์ดู ก็ลองมองไปยังโลกมุสลิมในปัจจุบัน ดูประเทศที่มีการประท้วงต่อต้านผู้นำ ผลของมันเป็นอย่างไร ?
พวกเขาเริ่มต้นอาหรับสปริงด้วยการออกมาเฉลิมฉลอง มีกลุ่มอะลุ้ลบิดอะฮ์และกลุ่มตักฟีรีย์ มีกลุ่มที่เรียกร้องประชาธิปไตย และเสรีนิยมในดินแดนมุสลิม มีกลุ่มอิควาน อัล-มุสลิมีน ในอิยิปต์ ตูนิเซีย ลิเบีย ซีเรีย เเละเยเมน ลองดูประเทศของพวกเขาตอนนี้ซิ ดูสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการประท้วงในซีเรีย การประท้วงพาพวกคุณไปที่ใหน? มันพาคนนับครึ่งล้านไปตายหนะซิ ทั้งชายหญิงและเด็กในซีเรีย ต้องอยู่อย่างลำพัง และหลายล้านคนต้องลี้ภัยไปอยู่ตามชายแดนซีเรีย ในซาอุดิอารเบีย จอร์เเดน เเละตุรกี เช่นเดียวกับการย้ายถิ่นฐานไปอย่างอับจนและชอกช้ำ ยังยุโรป มีเเต่ผู้คนไม่รู้จักเเละไม่เป็นมิตร พวกเขาต้องถูกยึดบ้าน เเละถูกขับไล่จากบ้านเกิด ต้องเผชิญกับความทุกข์ และความตาย เด็กๆ ที่เกิดมาใหม่ก็ไม่ได้รับการศึกษา เด็กรุ่นนี้ไม่ได้ไปมัสยิดเพื่อศึกษาอัลกุรอาน พวกเขาขาดโอกาสเรียนรู้ศาสนาของอัลลอฮ์ หรือไม่ได้อบรมสั่งสอน คนในครอบครัวไปสู่ความสันติและปลอดภัย สาเหตุก็มาจากคนพวกเหล่านี้ ไม่ว่าพวกอิควาน-อัลมุสลิมูน, พวกเคาะวาริจ, พวกเสรีนิยม, พวกเเกนนำประชาธิปไตย และพวกที่อ้าง “เสรีภาพ” พวกเขาเผยเเพร่สิ่งอุตริ และนอกรีตเข้าสู่ฝูงชนที่ไม่มีความรู้
เชคอัลบานีย์ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ ได้พูดถึงการประท้วงว่า ท่านรู้สึกเเปลกใจกับคนเหล่านี้ที่อยากจะออกไปเดินขบวนกันตามท้องถนนเพื่อสถาปนาระบอบชารีอะฮ์ ของอัลลอฮ์ เเต่เอาวิธีการของพวกกุฟ้ารมาใช้ พวกเขาออกมาประท้วงกันบนถนน เหมือนที่พวกกุฟฟารออกมาประท้วงในประเทศของพวกเขา เหมือนกับพวกคอมมิวนิสต์ และพวกประชาธิปไตยตะวันตก
คุณหวังจะปรับปรุงอิสลามด้วยหลักการของพวกกาเฟ้รและด้วยศาสนาของพวกเขา จะยึดเอาวิธีการของพวกเขาหน่ะหรือ? ใหนหละ! หลักฐานจากอัลลอฮ์ -ซุบฮานะฮูวะตะอาลา- ที่อนุญาตให้ออกไปประท้วง ? พวกคุณไม่ได้เข้าใจอายะฮ์อัลกุรอานและหะดีษอย่างถูกต้อง เพราะศอฮาบะฮ์ ไม่ได้เข้าใจเหมือนที่พวกคุณเข้าใจกัน
ใหนหละครับหลักฐาน? ว่าอิหม่ามทั้งสี่ (อิหม่ามอบูฮานิฟา, อิหม่ามมาลิก, อิหม่ามอัชชาฟิอีย์, และอิหม่ามอะหมัด) ได้สั่งให้ออกไปประท้วงกันตามท้องถนน เราไม่พบมันนอกจากว่าความคิดนี้จะเอามาจากพวกกุฟฟ้าร ไม่ว่าจากประเทศจีน จากรัสเซีย จากพวกคอมมิวนิสต์ และพวกบอลเชวิค (นิยมลัทธิมากซ์) จากปักกิ่งสเควร์ ที่พวกเขาออกมาประท้วง เเละล้มตายกันมากมาย หรือที่ประท้วงกันข้างกำเเพงเบอร์ลิน และการประท้วงในที่ต่างๆ ทั่วยุโรป และที่อื่นๆ
แต่มุสลิมที่โง่เขลา เเละหลงผิด เมื่อมองไปยังสิ่งนั้น กลับพูดว่า “เราออกไปทำสิ่งนั้นเพื่อประเทศของเรา” และพวกเขาก็เอาวิธีการของพวกกาเฟรมาใช้ และพวกเขากล่าวว่า “เราจะใช้วิธีการของพวกเขาเพื่อสถาปนาอิสลามไม่ได้หรือไง ?“ และตอนนี้ก็ลองดูผลลัพท์ของมันซิ
การที่คุณถามว่า “ทำไมมีมุสลิมไม่เห็นด้วยกับการประท้วงและเดินขบวน ? เเสดงว่าคุณต้องการให้สะละฟีย์ย์สนับสนุนการก่ออาชญากรรม, การฆ่า และฟิตนะฮ์ (ความโกลาหล) ที่เป็นผลจากการประท้วงของพวกคุณกระนั้นหรือ?!
นั้นก็เป็นสาเหตุว่าทำไม อุลามะอ์สะละฟีย์ เชคอัล-เฟาซาน เมื่อมีคนถามเรื่องนี้ท่านตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วง” เชคอับดุลลอฮ์ อัล-บุคอรีย์ เมื่อมีคนถามท่านก็ตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วง” เชคร่อเบียะอฺลมัดคอลีย์ เมื่อมีคนถาม ท่านก็ตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วง” เชคอุบัยด์ อัล-จาบิรีย์ เมื่อมีคนถาม ท่านก็ตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วง” เชคอับดุมุฮ์ซิน อัล-อับบาด เมื่อมีคนถามท่านก็ตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วง” บรรดาอุลามะอ์สะละฟีย์ย์ต่างแนะนำทุกคนให้อยู่เเต่ในบ้าน ทำไมหนะหรือ ? ก็เพราะว่าการประท้วงไม่ใช่เเนวทางของศอฮาบะฮ์
เเม้กระทั่งเชคสะละฟีย์ย์รุ่นก่อนๆเมื่อสามสิบปีที่เเล้ว เมื่อมีคนถามเชคบิน บาซ ในเรืองนี้ ก็ตอบว่า “ห้ามออกไปประท้วงเดินขบวน” เช่นเดียวกับเชคอิบนุ อุไซยมีน, เชคอัล-อัลบานีย์ ท่านกล่าวว่า “คนที่เข้าร่วมการประท้วงชุมนุมในสาธารณะ การนั่งร่วมประท้วงและเดินขบวนต่อต้านผู้นำ เป็นการขัดเเย้งกับสุนนะฮ์ในการปรับปรุงเเก้ไขปัญหาสังคม และขัดเเย้งกับเเนวทางสะลัฟ ที่อัลลอฮ์ทรงตรัสใว้ในซูเราะฮ์ อัน-นู้ร อายะที่ 63 ว่า “
“ดังนั้นบรรดาผู้ที่ฝ่าฝืนคำสั่งของเขา(มุฮัมมัด) จงระวังตัวเถิดว่า เคราะห์กรรมจะเกิดขึ้นแก่พวกเขา หรือว่าการลงโทษอันเจ็บปวดจะเกิดขึ้นแก่พวกเขาเช่นกัน”1
ดังนั้น นี้จึงเป็นผลลัพท์ที่เกิดขึ้นเมื่อสุนนะฮ์ขของท่านนบี ถูกต่อต้านเเละขัดเเย้ง ผลก็คือภัยพิบัติเเละความยากลำบาก
บรรดาหัวหน้าของพวกบิดอะฮ์ เพียงนั่งเฝ้าอยู่เเต่ในบ้านของเขา และในที่ซ่อนของพวกเขา เเละนั่งพิมพ์ข้อความส่งทวีต ส่งข้อความเฟสบูค และ WhatsApp กระจายข่าวสาร สุมไฟปลุกปั่น เพื่อกระตุ้นให้ชาวอียิปต์ออกไปเดินขบวนตามท้องถนน(ในขณะนั้น) แล้วพวกเขาก็นั่งอยู่ในบ้านอย่างสบายใจ ในขณะที่คนขายเนื้อ คนทำขนมปัง พยาบาล และช่างซ่อมรถยนต์ ฯลฯ กำลังออกไปเดินขบวนตามถนน หันหน้าเข้าหาตำรวจที่กำลังถืออาวุธ พร้อมด้วยกระสุน พวกเขาเสพย์เอาคำพูดของพวกบิดอะฮ์เหล่านี้ที่โฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นมันการญีฮาด(ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์)และห้ามความปรามชั่ว ผลสุดท้ายทุกวันนี้ บรรดาลูกๆ ของครู คนขายเนื้อ คนทำขนมปัง พยาบาลและช่างยนต์ เหล่านั่นต่างก็ยังประสบกับความทุกข์ทรมานอยู่ในซีเรียและที่อื่น ๆ
ดูความเเตกต่างของภูมิทัศน์ประเทศต่างๆ เช่นซีเรียและลิเบียก่อนการประท้วงกับทุกวันนี้ และดูการประท้วงในตูนิเซียนำพาสู่การเปิดประตูต้อนรับพวกตักฟีร เเละก่อการร้าย ในทุกที่ มีเพียงคนเดียวที่ได้รับประโยชน์จากความวุน่วายนี้ ก็คือ คนชั่ว คนที่ชอบละเมิด ฝ่าฝืนสุนนะฮ์และสัจธรรม เเละนี่ก็คือผลที่เกิดขึ้นมาจากการประท้วงทั้งสิ้น!






อ้างอิง
- ซูเราะฮ์ อัน-นู้ร อายะที่ 63 ↩︎