อะบุลอะอลา อัลเมาดูดี คือใคร ?

อะบุลอะอลา อัลเมาดูดี – แกนนำขบวนการสุดโต่ง
เรียบเรียงโดย อ.คอลิด ปานตระกูล

ประวัติพอสังเขป

อะบุลอะอลา อัลเมาดูดี (ตายปีค.ศ.1979). เป็นอีกต้นแบบความสุดโต่งของสัยยิดกุฏบ ต้นแบบขบวนการตักฟีรีย์(ตัดสินผู้คนเป็นกาฟิรโดยมิชอบด้วยหลักการ) ผู้ก่อตั้งขบวนการอัลญะมาอะฮ์อัลอิสลามียะฮ์ในอินเดีย หลายคนเชิดชูบุคคลนี้โดยเข้าใจว่าเป็นนักต่อสู้เพื่ออิสลาม ในบ้านเราก็มีคนเอาหนังสือของคนนี้มาแปลหลายเล่ม ซึ่งหลายเล่มแฝงด้วยแนวความคิดที่สุดโต่ง ผิดเพี้ยนไปจากแนวทางของชาวซุนนะฮ์ เช่นหนังสือ อัดดีน อัรรอบ อัลอิบาดะฮ์ อัลอิลาฮ์ (เล่มนี้มีคนแปลเป็นไทยนานแล้ว) อัชชะกีกอน อัลคิลาฟะฮ์วัลมุลก์ เป็นต้น บรรดานักปราชญ์ได้ตอบโต้แนวความคิดของอะบุลอะอลา อัลเมาดูดีย์อย่างมากมายเพื่อเตือนมิให้ยึดถือความผิดเพี้ยนหลายประการ.ถึงแม้ท่านจะมีหนังสือที่ตอบโต้เปิดโปงความชั่วของกอดิยานีก็ตามแต่ก็ไม่เป็นเหตุผลที่จะลบล้างความผิดเพี้ยนต่างๆของเขาหรือจะต้องให้เรานิ่งเฉยได้.แต่ถือเป็นว่าญิบต่อผู้ที่มีความรู้จะต้องออกมาชี้แจงความถูกต้องเพื่อดำรงใว้ซึ่งหลักการศาสนาอันถูกต้องโดยเฉพาะมีการแปลหนังสือออกเผยแพร่ตลอดจนพวกซุนนะฮเองเข้าใจว่าท่านผู้นี้อยู่บนสายธารแห่งซุนนะฮ์ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นผู้เผยแพรแนวความคิดเรื่องญิหาดที่สุดโต่งและอุตริอย่างมากมาย.

ตัวอย่างความเพี้ยนของอะบุลอะอลาอัลเมาดูดี.

1.สงสัยในหะดีษมุตะวาติรเรื่องดัจญาล

เขากล่าวไว้ในหนังสือ( ร่อซาอิลวะมะซาอิล) หน้าที่ 57 ว่า

(كان رسول الله صلى الله عليه وسلم يظن خروج الدجال في عهده أو قريباً من عهده، ولكن مضت إلى هذا الظن ألف سنة وثلاثمائة سنة وخمسون عاماً، قروناً طويلة ولم يخرج الدجال، فثبت أن ما ظنه صلى الله عليه وسلم لم يكن صحيحاً ) !!.
وزاد: (وقد مضت ألف … ولم يخرج الدجال، فهذه هي الحقيقة). المرجع السابق في طبعة سنة 1362

ท่านร่อซูลุลลอฮ-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม- คิดไปว่าจะมีดัจญาลออกมาในยุคของท่านหรือไกล้ๆกับยุคของท่า แต่ทว่าเวลาได้ผ่านมาจากความคิดดังกล่าว1350ปีแล้ว หลายๆศตวรรษที่ยาวนานดัจญาลก็ไม่ออกมาสักที จึงยืนยันได้ว่าสิ่งที่ท่านร่อซู้ล-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม-ได้คิดไปนั้นไม่ถูกต้อง. !!!
เขาพูดเสริมอีกในหนังสือดังกล่าว พิมพ์ปีฮ.ศ. 1362ว่า: (เวลาได้ผ่านมานับพัน…. ปีแล้ว ดัจญาลก็ไม่ออกมาเสียที นี่คือความจริง ).

–หะดีษที่รายงานเรื่องการออกมาของดัจญาลเป็นหะดีษที่มีรายงานถูกต้อง มากมายหลายสายถึงขั้นมุตะวาติรแต่อัลเมาดูดีไม่แยแส.

2.พูดจาจาบจ้วงท่านร่อซูลุลลอฮ-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม-

เขากล่าวว่า :

وقال: (كل ما روي في أحاديثه صلى الله عليه وسلم في الدجال ثبت أن كل ذلك كان رأياً وقياساً منه صلى الله عليه وسلم، وكان في ريبه من أمره).

(ทุกๆสิ่งที่ถูกรายงานในหะดีษของท่านร่อซู้ล-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม-ในเรื่องดัจญาลนั้น ยืนยันแล้วว่าทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็นเพียงทัศนะและการเทียบเคียงจากท่านร่อซู้ลเอง-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม- ซึ่งตัวท่านเองก็ยังสงสัยในเรื่องนี้อยู่อย่างนั้น.)
-อัลลอฮ์ตะอาลายืนยันว่า
وما ينطق عن الهوى، إن هو إلا وحى يوحى
และ(มุหัมมัด)นั้นจะไม่พูดตามอารมณ์ หากแต่ว่าสิ่งที่พูดออกมานั้นคือวะหย์ที่ถูกประทานให้เขานั่นเอง. แสดงว่าท่านมิได้คิดเอาเอง สงสัยเอง เทียบเอาเอง. นี่เป็นการจาบจ้วงที่น่ารังเกียจยิ่ง.
-เขายังพูดอีกว่า :

(إن الله سبحانه أمره صلى الله عليه وسلم في سورة النصر بأن يستغفر ربه ما صدر منه من أداءالفرائض فرائض النبوة من تقصيرات ونقائص) !!.
แท้จริงอัลลอฮผู้ทรงมหาบริสุทธ์ ได้สั่งใช้ท่านร่อซูลุลลอฮ-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม-ในซูเราะฮ์อันนัศร์ ให้ขออภัยโทษต่อพระองค์เนื่องจากความบกพร่อง ทำไม่ครบถ้วนต่อการปฏิบัตสิ่งที่เป็นฟัรฎูของการเป็นนบี.

-นะอูซุบิลลาฮ์นี่เป็นการกล่าวเท็จที่ยิ่งใหญ่มากต่อท่านร่อซูลุลลอฮ-ซอลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม- บนหน้าดุนยานี้มีใครยำเกรงต่ออัลลอฮมากกว่าท่านกระนั้นหรือ? ถ้าคนที่อัลลอฮ์-ตะอาลา-ทรงเลือกสรรให้เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐสุดบนหน้าโลกนี้ยังบกพร่องต่อหน้าที่ ทำหน้าที่ไม่ครบถ้วนตกๆหล่นๆ แบบนี้จะเป็นแบบอย่างกับประชาชาติได้อย่างใร?

3.อัลเมาดูดี จาบจ้วงบรรดานบีทั้งหลาย-


3.1-เขาพูดถึงนบียูซุฟ-อะลัยฮิสสะลาม-เมื่อครั้งที่ท่านร้องขอจากผู้ปกครองอียิปต์ในสมัยนั้นให้มอบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการคลังให้กับท่านเพราะท่านนบียูซุฟนั้นเป็นผู้มีอะมานะฮ์ ซื่อตรง แต่อะบุลอะอลา อัลเมาดูดีกลับวารจ์ว่า

(إن هذه لم تكن مطالبة لمنصب وزير المالية فقط بل إنها كانت مطالبة بالدكتاتورية ونتيجة لذلك كان وضع سيدنا يوسف عليه السلام يشبه جداً وضع موسوليني في إيطاليا الآن).

( นี่มาใช่เพียงแค่การขอตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเท่านั้นแต่ทว่าเป็นการขอแบบเผด็จการยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ เหตุนี้เองสถานะของท่านนบียูซุฟ-อะลัยฮิสสะลาม-จึงคล้ายคลึงเป็นอย่างมากกับสถานะของมุสโสลีนี(จอมเผด็จการ-ทรราช)ในอิตาลีในปัจจุบันนี้.)
– มุสลิมยอมหรือที่จะให้ใครมาดูถูกนบีของอัลลอฮ เช่นนี้.

3.2- กล่าวหานบียูนุสว่าบกพร่องในการเผยแผ่ศาสนา.
เขากล่าวว่า :
وقال: (إن سيدنا يونس عليه السلام كانت قد صدرت منه بعض التقصيرات في تبليغ الرسالة).
(แท้จริงสัยยิดินายูนุซ-อะลัยฮิสสะลาม-ได้แสดงท่าทีบางอย่างที่เป็นความบกพร่องในการเผยแผ่สารแห่งศาสนา)

3.3-กล่าวหาท่านนบีนูวห์-อะลัยฮิสสะลาม-ว่าเป็นพวกตามอารมณ์ มีความรู้สึกแบบญาฮิลียะฮ์ !!!
(إن سيدنا نوح عليه السلام أصبح مغلوباً أمام نزواته وطغت عليه عاطفة الجاهلية).
(แท้จริงสัยยิดินานูวห์-อะลัยฮิสสะลาม- กลายเป็นผู้ที่พ่ายแพ้ต่ออารมณ์ที่แปรปรวนของเขา และความรู้สึกแบบญาฮิลียะฮ์ที่พุ่งพล่าน.)
– ผมเชื่อว่าทุกคนที่มีอิหม่านอย่างบริสุทธ์ใจ คงไม่มีใครยอมให้คนหนึ่งคนใดมาลบหลู่ กล่าวหาใส่ร้ายนบีท่านหนึ่งท่านใดของอัลลอฮ์อย่างแน่นอน นอกจากพวกที่มีอารมณ์พวกหิซบีย์แอบแฝงเช่นพวกอิควาน กลุ่มญิฮาดต่างๆ.

3.4-กล่าวหา ใส่ร้าย ซ่อฮาบะฮ์เช่นท่านอุสมาน บิน อัฟฟานและท่านอื่นๆ

เขาพูดถึงท่านอุสมาน-ร่อดิยัลลฮฮุอันฮุ- ว่า:
(غير أن سيدنا عثمان رضي الله عنه حين خلفه أخذ يحيد عن هذه السياسة رويداً رويداً فطفق يعهد الى أقربائه بالمناصب الكبرى ويخصهم بامتيازات أخرى اعترض الناس عليها عامة !!).
(หากแต่ว่าสัยยิดินาอุสมาน-ร่อดิยัลลอฮุอันฮุ-เมื่อได้ขึ้นเป็นค่อลีฟะฮ์แล้ว ท่านก็เริ่มเฉใฉออกจากการปกครองตามระบอบนี้ที่ละเล็ก ทีละน้อย โดยการแต่งตั้งญาติไกล้ชิดท่านให้ดำรงตำแหน่งใหญ่ๆ ตลอดจนมอบสิทธิพิเศษอื่นนานับประการให้ ซึ่งประชาชนทั่วไปต่างก็คัดค้านการกระทำเช่นนี้).
-และในหนังสือที่ชื่อว่า (อัลคิลาฟะฮ์วัลมุลก์)หน้าที่50 อะบุลอะอลา อัลเมาดูดีจึงสรุปว่า ด้วยสาเหตุของการกระทำของท่านอุสมานเช่นนี้จึงถูกประชาชนออกมาทำการปฏิวัติโค่นล้มการปกครองของท่าน.

-ความจริงแล้วเรื่องการใส่ร้ายท่านอุสมาน บินอัฟฟาน-ร่อดิยัลลอฮุอันฮุ-ว่าใช้อำนาจโดยมิชอบ เล่นพรรคเล่นพวก วงศาคณาญาติ เช่นนี้ไม่ใช่ประชาชนที่ใหนหรอก แต่มันคือพวก(อัซซะบะอียะฮ์)ที่ตามการปลุกปลั่น ยุแหย่ของยะฮูดที่ชื่ออับดุลลอฮ บิน ซะบะอ์ มุนาฟิกีนตัวร้าย ต้นตอของพวกชีอะห์ พวกรอว่าฟิฎ ที่แฝงเข้าอิสลามเพื่อบ่อนทำลายนั่นเอง ซึ่งเรื่องนี้ท่านอิมามอิบนุตัยมียะฮ์ได้เคยตอบโต้ข้อกล่าวหาที่ชั่วร้ายนี้เอาใว้แล้วในหนังสือของท่านที่ชื่อ(มินฮาจุซุนนะฮ์).


นอกจากนี้ยังมีศ่อฮาบะฮ์อีกหลายท่านที่ถูกกล่าวหา ถูกใส่ร้าย ถูกจาบจ้วงด้วยวาจาที่หยาบช้าเช่น อับดุลลอฮอิบนุ อะบิลซัรห ท่านมุอาวิยะฮ์ บินอะบีซุฟยาน ท่านซะอ์ บิน อุบาดะฮ์ – ร่อดิยัลลอฮุอันฮุม-.
เหตุนี้เองที่ทำให้พักชีอะห์ออกมาเชิดชูอะบุลอะอลาอัลเมาดูดี สนับสนุนเรียกร้องให้คนอ่านตำราของเขา เพราะนี่เท่ากับเป็นการรับใช้ศัตรูอย่างพวกชีอะห์ซึ่งพวกเขาเองก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อน.