ซากิร ไนค์ กล่าวว่า “หนังเรื่อง The Message” คือหนังที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดู”
แปลโดย อบูจัสมิน
หนังเรื่องนี้เป็นหนังเกี่ยวกับประวัติของท่านนบี มูฮัดหมัด (ปี 1976)
กำกับโดย : Moustapha Akkad
นำเเสดงโดย : Anthony Quinn
หนังดังกล่าว มีอุละมาอฺหลายท่านได้ออกมาเตือนห้ามดูเด็ดขาด เช่น เชคอับดุลอาซีซ อิบนุบาซ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์ และคณะกรรมการถาวรเเละการวินิจฉัยปัญหาศาสนา (ลัจนะ ดาอิมะฮ์)
نعوذ بالله من ذلك
มีการเเสดงเป็นศอฮาบะฮ์ รวมทั้งบิดเบือนข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์อิสลาม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม จากลิงค์ด้านล่างนี้ : https://www.troid.org/media/pdf/hindandhamzah.pdf
__
ในขณะเดียวกันซากิร ไนค์ก็ยกย่องหนังที่หลงผิดอีกเรื่องคือ ‘Ertugrul’ เป็นซีรีย์อีกเรื่องของตุรกี ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับชิริกเเละบิดอะฮ์
ซากิร ไนค์ กล่าวว่า “ไม่กี่ปีก่อน ฉันได้ดูภาพยนต์เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า ‘The Message‘. เป็นหนังที่ดีสุดทีมีอยู่บนโลกนี้ เเม้ว่ามันจะมีบางอย่างที่ไม่หะลาลอยู่บ้าง เช่นมีเพลง หรือมีนักเเสดงเป็นผู้หญิง ไม่สวมหิญาบ เเต่เป็นหนังที่สร้างมาได้ยอดเยี่ยมมาก เเน่นอนมันจะพาคนเข้าใกล้อิสลาม แม้จะไม่หะลาล 100% เเต่สำหรับคอหนัง(อย่างเราๆ) กรุณาดูเรื่องนี้ ‘The Message’”
แปลมาจาก :
https://youtu.be/bmWi0cNU0Q4?t=356
ข้ออ้างจากฝ่ายสนับสนุนซากิร ไนค์
Abufawz Ibn Umar ไม่ยกคำพูดแกมาให้หมดหรอครับ ที่ว่า “กรุณาดูเรื่องนี้” นี่แกหมายถึงคนที่ติดหนัง เลิกไม่ได้ ถ้าจะไปดูหนังฮอลลีวูด ดูเรื่องนี้ยังดีกว่า แต่ถ้าเป็นคนที่ปกติที่ไม่ดูหนัง ไม่ติดหนัง แกก็ห้ามดูทั้งหมด เรื่อง the massage นี่ก็ด้วย อันนี้ถือเป็นตามกฎ ارتكاب أخف الضررين ไหมครับว่าถ้ามีบาปสองอย่าง เลี่ยงไม่ได้ทั้งสองอย่าง ให้ทำของที่เบากว่า เหมือนที่ตอนท้ายคลิปแกยกตัวอย่างเปรียบเทียบว่าถ้าผู้หญิงคนหนึ่งใส่กระโปรงสั้น แล้วต้องการมาเปลี่ยนใส่ชุดยาวปกปิดทั้งตัว แต่ไม่คลุมหัว ถ้าเราไปบอกว่าให้คลุมฮิญาบให้เรียบร้อยด้วย ผู้หญิงคนนั้นก็จะใส่กระโปรงสั้นต่อไป การใส่ชุดยาวปกปิดทั้งตัวแต่ไม่คลุมผม มันก็ยังดีกว่าใส่กระโปรงสั้นไหมครับ หรือเราจะบอกไหมว่า ถ้าไม่คลุมฮิญาบด้วยก็ไม่ต้อง ใส่กระโปรงสั้นต่อไปเหอะ อย่างงั้นหรอครับ
คำตอบ จากอ.ยะห์ยา หัสการบัญชา
อะค็อฟฎ่อร่รอยน์ใช้ในเรื่องที่พื้นฐานเป็นสิ่งที่เป็นผลเสียทั้งสองเรื่องแล้วต้องทำแบบเลี่ยงไม่ได้จริงๆให้เลือกทำสิ่งที่เกิดผลเสียน้อยหรือเบากว่า
เช่น
การกินหมูกับอดตายในที่แห่งหนึ่งที่ไม่มีอะไรหะล้าลให้กินเลยในเวลานั้นและกำลังจะอดตายเพราะไม่มีอะไรให้กิน กรณีนี้คือทั้งสองทางเป็นผลเสียทั้งคู่ ให้เลือกกินหมู เนื่องจากผลเสียเบากว่าไม่งั้นมีโอกาสอดตายสูงมากซึ่งเป็นผลเสียที่ร้ายแรงกว่า
ซึ่งการดูหนังไม่ได้เข้าข่ายนี้ครับ เพราะไม่ได้สุดวิสัยหรือจำเป็นแบบขาดไม่ได้ และเป็นเรื่องของนัฟซู อารมณ์ใฝ่ต่ำล้วนๆ มีใครตายถ้าไม่ดูหนังมั้ย ก็ไม่ หรือมีใครไม่ดูหนังแล้วจะกลายเป็นกาฟิร หรือพิการ เป็นหมัน หรือเจ็บป่วยมั้ย ยากจนอดตายมั้ย ก็ไม่อีก
เหมือนการขโมยของ ถ้ามีคนบอกว่าการขโมยหะรอมเลยต้องหันไปซื้อล้อตเตอรี่หรือค้าขายสิ่งหะรอมแทนจะได้ไม่ต้องขโมย อันนี้คือความหลง เพราะการขโมยไม่ได้เลี่ยงด้วยการค้าขายของหะรอมหรือซื้อล็อตเตอรี่ แต่เลี่ยงด้วยการค้าขายของหะล้าลและด้วยเงินซะกาตจากกองคลังหรือเงินบริจาคช่วยเหลือจากคนใจบุญ
คือวิธีเลี่ยงแบบไม่ทำของหะรอมมันมีเยอะในสถานการณ์ความเป็นจริงเหมือนเรื่องดูหนังนี่แหละครับ วิธีเลี่ยงไม่ใช่ด้วยการไปดูหนังที่หะรอมในอีกแบบที่คิดว่าเบากว่า แต่วิธีเลี่ยงคือ หันไปหาข้อคิดจากวิธีที่ถูกต้อง เช่นการฟังหรืออ่านเรื่องเล่าจากอัลกุรอานหรือหะดีษที่ถูกต้อง
และกันไปผ่อนคลายด้วยวิธีที่หะล้าลและถูกต้อง เช่นเที่ยวชมดูธรรมชาติที่สวยงามแบบไม่ออกนอกกรอบหลักศาสนา เล่นกีฬาที่ไม่ขัดกับหลักศาสนา ฯลฯ
ฉะนั้นการนำกฎนี้มาอ้างจึงเป็นการยกผิดบริบท
และบ่งบอกถึงความโง่เขลาของคนอ้างครับและความคิดนี้มันยังเป็นหลุมพรางที่ชัยฏอนพยายามใช้หลอกล่อมนุษย์ให้ทำบาปโดยคิดว่าไม่ผิด และพยายามเอาอารมณ์เป็นที่ตั้งและเอาหลักศาสนามาคล้อยตามและรองรับอารมณ์ใฝ่ต่ำครับ
วัลลอฮ์ อะอฺลัม