– เเด่ปราชญ์ผู้เป็นที่รักของเรา

เชครอบิอ์ อัลมัดคอลีย์ รอฮิมะฮุลลอฮ์ –

– เเด่ปราชญ์ผู้เป็นที่รักของเรา

เชครอบิอ์ อัลมัดคอลีย์ รอฮิมะฮุลลอฮ์ –

คำกล่าวอันงดงามจากเชคของเชคของเรา คือ ดร.อัมมาร์ อิบนุ ฮาชิม อัซ-ซูบาอีย์ (ขออัลลอฮ์ทรงปกปักษ์รักษาท่าน)

ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และขออัลลอฮ์ทรงยกฐานะและประทานความสันติสุขแด่ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ครอบครัวของท่าน และบรรดาเศาะหาบะฮ์ของท่านทุกคน

โอ้อัลลอฮ์ โปรดตอบแทนเราในความสูญเสียนี้ และโปรดประทานสิ่งที่ดียิ่งกว่านี้แทนที่มันด้วยเถิด

เชคอัลอิมามรอบิอฺ อิบนุ ฮาดี — ตามที่ข้าพเจ้าได้รู้จักท่านจากการได้ใกล้ชิดและใช้เวลาอยู่กับท่าน ณ นครมักกะฮ์ อัลมุกัรรอมะฮ์ ตั้งแต่ปี ฮ.ศ. 1426 จนถึงปีที่ท่านย้ายไปยังมาดีนะฮ์ ข้าพเจ้าก็ยังคงไปเยี่ยมและได้รับประโยชน์จากท่านอย่างมากมายตั้งแต่นั้นมา

ในบรรดาสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากท่านและได้เห็นกับตาตัวเอง ได้แก่

ความถ่อมตน ความเอื้ออาทร และความรักของท่านต่อบรรดานักศึกษาวิชาศาสนา

ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินถึงนักวิชาการคนใดที่เอาใจใส่เรื่องราวของชาวซะละฟีย์ และกระตือรือร้นที่จะประสานไมตรีระหว่างพวกเขา เท่ากับเชคท่านนี้

หลายครั้งที่มีคนมากราบเรียนว่ามีบางคนพูดว่าร้ายท่าน ท่านจะตอบเพียงว่า “ฉันให้อภัยเขาแล้ว”

ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากท่านว่าผู้แสวงหาความรู้ควรศึกษาความรู้อย่างไร และควรใช้ความรู้นั้นเป็นหลักฐานอย่างไร ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ถึงความเป็นธรรมและความยุติธรรมของท่าน แม้แต่กับศัตรูที่เคยใส่ร้ายป้ายสีท่าน

ข้าพเจ้าได้เรียนรู้ว่าถ้ามีคนวิจารณ์ท่านในเรื่องใด ท่านจะกล่าวว่า:

“เอาคำวิจารณ์ของเขามาให้ฉันดู บางทีความจริงอาจจะอยู่กับเขา”

แล้วท่านก็จะติดต่อผู้วิจารณ์คนนั้น และขอบคุณเขาเสียด้วย

และวันนี้ คืนวันพฤหัสบดีที่ 15 มุฮัรรอม 1447 ฮ.ศ. พวกเราต้องกล่าวอำลาท่าน ในวัยเกือบ 96 ปี — โดยท่านเกิดในปี ฮ.ศ. 1351

ข้าพเจ้าขอต่ออัลลอฮ์ ผู้ทรงยิ่งใหญ่ ให้ทรงทำให้เชคของเราเป็นหนึ่งในผู้ที่ท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ขออัลลอฮ์ทรงยกฐานะและประทานความสันติสุขแด่ท่าน) ได้กล่าวว่า: “ผู้ที่ดีที่สุดในหมู่ประชาชาติคือผู้ที่มีอายุยืนและประกอบคุณงามความดี”

และเรากล่าวแก่บรรดาพวกบิดอะฮ์ทั้งหลายว่า !! :

นักวิชาการผู้ยิ่งใหญ่ และพี่เอาใจใส่กับน้องๆ นักวิชาการผู้นี้ — แม้ท่านจะจากไปแล้ว — แต่ความรู้ของท่านยังคงถูกบันทึกไว้ในหนังสือของท่าน

เราขอท้าแก่พวกผู้ตามอารมณ์ใฝ่ต่ำที่กล่าวหาว่าเชคสุดโต่งว่า:

หนังสือของท่านถูกตีพิมพ์และเผยแพร่ไปทั่วโลก — จงศึกษาเถิด แล้วพวกเจ้าจะพบเพียงแต่วิชาการซะละฟีย์อันบริสุทธิ์ ไม่มีความสุดโต่งใด ๆ และไม่มีการลดทอนใด ๆ ทั้งสิ้น

แนวทางของซะลัฟจะไม่มีวันตาย! — แต่จะดำรงอยู่ตราบจนวันสิ้นโลก และซะละฟียะฮ์จะยังคงอยู่ตลอดไป

เราขอต่ออัลลอฮ์ให้ทรงอภัยโทษแก่เชคของเรา และโปรดให้ท่านได้ร่วมอยู่กับแบบอย่างอันยิ่งใหญ่ที่สุดของท่าน คือท่านนบีมุหัมหมัด (ขออัลลอฮ์ทรงยกฐานะและประทานความสันติสุขแก่ท่าน) บรรดาเศาะหาบะฮ์อันทรงเกียรติ และเชคของท่านเอง ได้แก่ เชคอัล-อัลบานีย์ และเชคอิบนุ บาซ ข้าพเจ้าได้ยินท่านหลายครั้งกล่าวชื่นชมพวกเขา และท่านเคยกล่าวว่า:

“ฉันไม่เคยรักใครหลังจากเศาะหาบะฮ์แล้วเท่ากับที่ฉันรักอิบนุ บาซ”

นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของสิ่งที่ข้าพเจ้าได้เรียนรู้จากเชค อัลอิมามของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอต่ออัลลอฮ์ให้ทรงทำให้พวกเรามั่นคงอยู่บนแนวทางซะลัฟอันเที่ยงเเท้ จนกว่าเราจะได้พบกับบรรดานักปราชญ์และผู้ทรงคุณธรรม

ข้าพเจ้าขอแนะนำพี่น้องชาวซะละฟีย์ให้มีความอดทนต่อการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้ และจงยึดถือหนทางของอิมามของพวกท่าน คือความเพียรพยายามในการประสานสามัคคีระหว่างกัน การละทิ้งความบาดหมางและความเกลียดชัง และการเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมของตน

พวกท่านจงพยายามจะดำเนินงานดะอ์วะฮ์ บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง ห่างไกลจากการผ่อนปรนของผู้ประนีประนอม และห่างไกลจากความสุดโต่งที่เชคได้ต่อต้านมาตลอด — ขออัลลอฮ์ทรงเมตตาท่าน

เรายังกล่าวแก่พวกบิดอะฮ์ที่เคยใส่ร้ายท่านว่า:

“การนัดหมายอยู่ในวันซึ่งบรรดาผู้สัตย์จริงจะได้ประโยชน์จากความสัตย์ของพวกเขา และความเท็จของผู้มุสจะปรากฏอย่างชัดเจน

และทุกคนจะได้รับผลตอบแทนตามการกระทำของตน”

ขออัลลอฮ์ทรงยกฐานะและประทานความสันติสุขแด่ท่านนบีมุหัมหมัด ครอบครัวของท่าน และบรรดาเศาะหาบะฮ์ของท่านทุกคน

เขียนโดย: อับดุลลอฮ์ อัล-มุฮาวัช อัซ-ซูบาอีย์

คืนวันพฤหัสบดีที่ 15/1/1447 ฮ.ศ.