50 ข้อ ถาม-ตอบ เรื่องหลักความเชื่อ (อะกีดะฮ์)
โดย เชคมุฮัมมัด บิน อับดุลวะฮ์ฮาบ ร่อฮิมะฮุ้ลลอฮ์
อุมมุ อัยนิน แปลและเรียบเรียง
อ.คอลิด ปานตระกูล ตรวจทานและแก้ไข
▶ 1. อะไรคือพื้นฐานทั้งสาม ที่มุสลิมทุกคนจำเป็นต้องทราบ
บ่าวจะต้องทราบเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าของพวกเขา
และศาสนาของพวกเขา และศาสนทูตของพวกเขา
——————— 🍀
▶ 2. ใครคือพระเจ้าของท่าน (من ربك)
พระเจ้าของเรา คืออัลลอฮ์ (ربي الله) ผู้เลี้ยงดูฉัน (ตลอดจน มวลมนุษย์ ญิน และทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่) ด้วยความเมตตาแห่งพระองค์ พระองค์คือพระเจ้า ผู้เป็นที่เคารพสักการะของฉัน ไม่มีผู้ใดที่ต้องเคารพสักการะ นอกจากพระองค์เท่านั้น
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลฟาติฮะหฺ อายะฮ์ที่ 2) :
ٱلۡحَمۡدُ لِلَّهِ رَبِّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
“การสรรเสริญทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของอัลลอฮ์ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก“
——————— 🍀
▶ 3. อะไรคือความหมายของอัรร็อบ (الرب)
ผู้เป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง ผู้ทรงเป็นเจ้า ผู้ทรงบริหารจัดการ ผู้ทรงควรค่าแก่การเคารพสักการะ
——————— 🍀
▶ 4. ท่านจะรู้จักพระเจ้าของท่านได้อย่างไร
เราสามารถรู้จักพระองค์ ผ่านทางสัญญาณต่าง ๆ และสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง จากสัญญาณของพระองค์ คือ กลางคืนและกลางวัน ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ และจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง คือ ชั้นฟ้าทั้งเจ็ด และแผ่นดินทั้งเจ็ด และสิ่งทั้งหลายที่อยู่ในมันและอยู่ระหว่างมัน
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลฟุซศิลัต อายะฮ์ที่ 37) :
وَمِنۡ ءَايَٰتِهِ ٱلَّيۡلُ وَٱلنَّهَارُ وَٱلشَّمۡسُ وَٱلۡقَمَرُۚ لَا تَسۡجُدُواْ لِلشَّمۡسِ
وَلَا لِلۡقَمَرِ وَٱسۡجُدُواْۤ لِلَّهِۤ ٱلَّذِي خَلَقَهُنَّ إِن كُنتُمۡ إِيَّاهُ تَعۡبُدُونَ
และส่วนหนึ่งจากสัญญาณทั้งหลายของพระองค์ คือ การมีกลางคืน และกลางวัน และดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ พวกเจ้าอย่าได้สุญูดให้แก่ดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ แต่จงสุญูดอัลลอฮ์ พระผู้ทรงสร้างพวกมัน หากพวกเจ้าจะเคารพภักดีแก่พระองค์เท่านั้น
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอะอฺรอฟ อายะฮ์ที่ 54) :
إِنَّ رَبَّكُمُ ٱللَّهُ ٱلَّذِي خَلَقَ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلۡأَرۡضَ فِي سِتَّةِ أَيَّامٖ ثُمَّ ٱسۡتَوَىٰ عَلَى ٱلۡعَرۡشِۖ يُغۡشِي ٱلَّيۡلَ ٱلنَّهَارَ يَطۡلُبُهُۥ حَثِيثٗا وَٱلشَّمۡسَ وَٱلۡقَمَرَ وَٱلنُّجُومَ مُسَخَّرَٰتِۭ بِأَمۡرِهِۦٓۗ أَلَا لَهُ ٱلۡخَلۡقُ وَٱلۡأَمۡرُۗ تَبَارَكَ ٱللَّهُ رَبُّ ٱلۡعَٰلَمِينَ
แท้จริงพระเจ้าของพวกเจ้านั้น คือ อัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดินภายในหกวัน และทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ พระองค์ทรงให้กลางคืนครอบคลุมกลางวัน ในสภาพที่กลางคืนไล่ตามกลางวันโดยรวดเร็ว และทรงสร้างดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ และบรรดาดวงดาวขึ้น โดยถูกกำหนดให้ทำหน้าที่บริการ (แก่มนุษย์โดยไม่คิดค่าตอบแทน) ตามพระบัญชาของพระองค์ พึงรู้เถิดว่า การสร้างและกิจการทั้งหลายนั้น เป็นสิทธิของพระองค์เท่านั้น มหาบริสุทธิ์อัลลอฮ์ ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลก
——————— 🍀
▶ 5. อะไรคือศาสนาของท่าน (مادينك)
ศาสนาของเราคืออัลอิสลาม (ديني الإسلام) หมายถึง การยอมจำนนต่ออัลลอฮ์ โดยเชื่อฟัง และทำตามคำบัญชาใช้ของพระองค์แต่เพียงผู้เดียว
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ที่ 19) :
إِنَّ ٱلدِّينَ عِندَ ٱللَّهِ ٱلۡإِسۡلَٰمُۗ
แท้จริงศาสนา ณ อัลลอฮ์ นั้นคือ อัลอิสลาม (หมายถึงศาสนาแห่งการเชื่อฟัง และปฏิบัติตามโดยปราศจากการขัดแย้ง)
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ที่ 85) :
وَمَن يَبۡتَغِ غَيۡرَ ٱلۡإِسۡلَٰمِ دِينٗا فَلَن يُقۡبَلَ مِنۡهُ وَهُوَ فِي ٱلۡأٓخِرَةِ مِنَ ٱلۡخَٰسِرِينَ
และผู้ใดแสวงหาศาสนาหนึ่งศาสนาใดอื่นจากอิสลามแล้ว ศาสนานั้น ก็จะไม่ถูกรับจากเขาเป็นอันขาด และในปรโลกเขาจะอยู่ในหมู่ผู้ขาดทุน
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลมาอิดะฮ์ อายะฮ์ที่ 3) :
ٱلۡيَوۡمَ أَكۡمَلۡتُ لَكُمۡ دِينَكُمۡ وَأَتۡمَمۡتُ عَلَيۡكُمۡ نِعۡمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ ٱلۡإِسۡلَٰمَ دِينٗاۚ
วันนี้ข้าได้ให้สมบูรณ์แก่พวกเจ้าแล้วซึ่งศาสนาของพวกเจ้า และข้าได้ให้ครบถ้วนแก่พวกเจ้าแล้ว ซึ่งความกรุณาเมตตาของข้า และข้าได้เลือกอิสลามให้เป็นศาสนาแก่พวกเจ้าแล้ว
——————— 🍀
▶ 6. ศาสนานี้ตั้งบนรากฐานของสิ่งใด
ศาสนาอิสลามตั้งอยู่บนรากฐานสำคัญ 5 ประการ :
(1) การปฏิญาณตนว่า ไม่มีผู้ที่ควรค่าแก่การเคารพสักการะอื่นจากอัลลอฮ์ และมุฮัมมัด ﷺ เป็นบ่าวและเป็นศาสนทูตของพระองค์
(2) การกระทำละหมาดอย่างถูกต้องและสมบูรณ์
(3) การจ่ายซะกาต
(4) การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
(5) การทำฮัจญ์ (หากมีความสามารถ)
——————— 🍀
▶ 7. อะไรคืออัลอีหม่าน (الإيمان)
คือ การศรัทธาต่ออัลลอฮ์ ศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์ ศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ ศรัทธาต่อบรรดาศาสนทูต และศรัทธาต่อวันแห่งการตอบแทน รวมถึงศรัทธาต่อการกำหนดการกระทำดีและชั่ว
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 285) :
ءَامَنَ ٱلرَّسُولُ بِمَآ أُنزِلَ إِلَيۡهِ مِن رَّبِّهِۦ وَٱلۡمُؤۡمِنُونَۚ كُلٌّ ءَامَنَ بِٱللَّهِ وَمَلَٰٓئِكَتِهِۦ وَكُتُبِهِۦ وَرُسُلِهِۦ
ร่อซูลนั้น (นะบีมุฮัมมัด ﷺ) ได้ศรัทธาต่อสิ่งที่ได้ถูกประทานลงมาแก่เขา จากพระเจ้าของเขา และมุอฺมินทั้งหลายก็ศรัทธาด้วย ทุกคนศรัทธาต่ออัลลอฮ์ และมลาอิกะฮ์ของพระองค์ และบรรดาคัมภีร์ของพระองค์ และบรรดาร่อซูลของพระองค์
——————— 🍀
▶ 8. อะไรคืออัลอิหฺซาน (الإحسان)
คือ การเคารพสักการะต่ออัลลอฮ์ เสมือนว่าท่านมองเห็นพระองค์ แม้ว่าท่านจะไม่เห็นพระองค์ แต่แท้จริง พระองค์ทรงมองเห็นท่าน
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อันนะหฺลฺ อายะฮ์ที่ 128) :
إِنَّ ٱللَّهَ مَعَ ٱلَّذِينَ ٱتَّقَواْ وَّٱلَّذِينَ هُم مُّحۡسِنُونَ
แท้จริง อัลลอฮ์ทรงอยู่ร่วมกับบรรดาผู้ยำเกรง (โดยให้ความช่วยเหลือและได้รับความสำเร็จ) และบรรดาผู้กระทำความดี (ด้วยการปกปักรักษาให้พ้นจากการวางแผนของผู้วางแผน)
——————— 🍀
▶ 9. ใครคือศาสนทูตของท่าน (من نبيك)
ศาสนทูตของเราคือ มุฮัมมัด ﷺ (نبيي محمد) บุตรของอับดุลลอฮ์ (بن عبدالله) บุตรของอับดุลมุตตอลิบ (بن عبدالمطلب) บุตรของฮาชิม (بن هاشم) และฮาชิมสืบเชื้อสายมาจากกุรอยซ์ กุรอยซ์เป็นลูกหลานของกินานะฮ์ และกินานะฮ์สืบเชื้อสายมาจากอาหรับ และอาหรับเป็นลูกหลานของอิสมาอีล บุตรของอิบรอฮีม ผู้ซึ่งเป็นลูกหลานของนูหฺ (ขอพระองค์อัลลอฮ์ ทรงเมตตาแด่ท่านทั้งหลาย)
——————— 🍀
▶ 10. อะไรที่ทำให้ท่านเป็นนะบีและเป็นร่อซูล
ท่านเป็นนะบีด้วยกับ اقرأ (อิกเราะอฺ : จงอ่าน)
และเป็นร่อซูลด้วยกับ المدثر (อัลมุดดัซซิร : ผู้ที่ห่มกาย)
——————— 🍀
▶ 11. อะไรคือมัวะญิซาต (معجزته) ของท่าน
คืออัลกุรอานเล่มนี้ ที่สิ่งถูกสร้างทั้งหมด ไม่สามารถประพันธ์ให้เหมือนขึ้นมาได้แม้เพียงซูเราะฮ์เดียว คือ พวกเขาไม่สามารถที่จะกระทำได้ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความเชี่ยวชาญและความสามารถอย่างลึกซึ้งในการใช้ภาษาก็ตาม และพวกเขาก็เป็นศัตรูอย่างรุนแรงกับพวกที่ยึดถือปฏิบัติตามมัน
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 23) :
وَإِن كُنتُمۡ فِي رَيۡبٖ مِّمَّا نَزَّلۡنَا عَلَىٰ عَبۡدِنَا فَأۡتُواْ بِسُورَةٖ مِّن مِّثۡلِهِۦ
وَٱدۡعُواْ شُهَدَآءَكُم مِّن دُونِ ٱللَّهِ إِن كُنتُمۡ صَٰدِقِينَ
และหากปรากฏว่าพวกเจ้าอยู่ในความแคลงใจใด ๆ จากสิ่ง (จากอัลกุรอาน) ที่เราได้ให้ลงมาแก่บ่าวของเรา (แก่ท่านนะบีมุฮัมมัด) แล้วก็จงนำมาสักซูเราะฮ์หนึ่งเยี่ยงสิ่งนั้น และจงเชิญชวนผู้ที่อยู่ในหมู่พวกเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ หากพวกเจ้าเป็นผู้พูดจริง
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอิสรออฺ อายะฮ์ที่ 88) :
قُل لَّئِنِ ٱجۡتَمَعَتِ ٱلۡإِنسُ وَٱلۡجِنُّ عَلَىٰٓ أَن يَأۡتُواْ بِمِثۡلِ هَٰذَا ٱلۡقُرۡءَانِ لَا يَأۡتُونَ بِمِثۡلِهِۦ
وَلَوۡ كَانَ بَعۡضُهُمۡ لِبَعۡضٖ ظَهِيرٗا
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แน่นอน หากมนุษย์และญินรวมกันที่จะนำมาเช่นอัลกุรอานนี้ พวกเขาไม่อาจจะนำมาเช่นนั้นได้ และแม้ว่าบางคนในหมู่พวกเขาเป็นผู้ช่วยเหลือแก่อีกบางคนก็ตาม
——————— 🍀
▶ 12. อะไรคือหลักฐานยืนยันว่าท่านเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อาละอิมรอน อายะฮ์ที่ 144) :
وَمَا مُحَمَّدٌ إِلَّا رَسُولٞ قَدۡ خَلَتۡ مِن قَبۡلِهِ ٱلرُّسُلُۚ أَفَإِيْن مَّاتَ أَوۡ قُتِلَ ٱنقَلَبۡتُمۡ عَلَىٰٓ أَعۡقَٰبِكُمۡۚ
وَمَن يَنقَلِبۡ عَلَىٰ عَقِبَيۡهِ فَلَن يَضُرَّ ٱللَّهَ شَيۡـٔٗاۚ وَسَيَجۡزِي ٱللَّهُ ٱلشَّٰكِرِينَ
และมุฮัมมัดนั้นหาใช่อื่นใดไม่นอกจากเป็นร่อซูลผู้หนึ่งเท่านั้น ซึ่งบรรดาร่อซูลก่อนจากเขาก็ได้ล่วงลับไปแล้ว แล้วหากเขาตายไปหรือเขาถูกฆ่าก็ตาม พวกเจ้าก็หันส้นเท้าของพวกเจ้ากลับกระนั้นหรือ (หมายถึงหันกลับไปสู่สภาพเดิมหรือสภาพแห่งการเป็นกุฟรฺ) และผู้ใดที่หันส้นเท้าทั้งสองของเขากลับแล้วไซร้ มันก็จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายแก่อัลลอฮ์แต่อย่างใดเลย และอัลลอฮ์นั้นจะทรงตอบแทนแก่ผู้กตัญญูทั้งหลาย
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลฟัตฮ์ อายะฮ์ที่ 29) :
مُّحَمَّدٞ رَّسُولُ ٱللَّهِۚ وَٱلَّذِينَ مَعَهُۥٓ أَشِدَّآءُ عَلَى ٱلۡكُفَّارِ رُحَمَآءُ بَيۡنَهُمۡۖ تَرَىٰهُمۡ رُكَّعٗا سُجَّدٗا
มุฮัมมัดเป็นร่อซูลของอัลลอฮ์ และบรรดาผู้ที่อยู่ร่วมกับเขา เป็นผู้เข้มแข็งกล้าหาญต่อพวกปฏิเสธศรัทธา เป็นผู้เมตตาสงสารระหว่างพวกเขาเอง เจ้าจะเห็นพวกเขาเป็นผู้รูกั๊วะ ผู้สุญูด
——————— 🍀
▶ 13. อะไรคือหลักฐานยืนยันการเป็นนะบีของมุฮัมมัด
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอะหฺซาบ อายะฮ์ที่ 40) :
مَّا كَانَ مُحَمَّدٌ أَبَآ أَحَدٖ مِّن رِّجَالِكُمۡ وَلَٰكِن رَّسُولَ ٱللَّهِ وَخَاتَمَ ٱلنَّبِيِّـۧنَۗ وَكَانَ ٱللَّهُ بِكُلِّ شَيۡءٍ عَلِيمٗا
มุฮัมมัดมิได้เป็นบิดาผู้ใดในหมู่บุรุษของพวกเจ้า แต่เป็นร่อซูลของอัลลอฮ์และคนสุดท้ายแห่งบรรดานะบี และอัลลอฮ์นั้นทรงรอบรู้ทุกสิ่ง
โองการข้างต้นเป็นหลักฐานยืนยันการเป็นนะบี และยืนยันว่าท่านคือนะบีคนสุดท้าย
——————— 🍀
▶ 14. อะไรคือเป้าหมายที่อัลลอฮ์ทรงแต่งตั้งมุฮัมมัดเป็นนะบี
เพื่อเคารพสักการะต่ออัลลอฮ์เพียงผู้เดียว โดยไม่นำสิ่งอื่นมาคู่เคียงกับพระองค์ และห้ามพวกเขาไม่ให้สักการะต่อมลาอิกะฮ์ ศาสนทูต บรรดาคนดีทั้งหลาย รวมถึงก้อนหินหรือต้นไม้
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอัมบิยะอฺ อายะฮ์ที่ 25) :
وَمَآ أَرۡسَلۡنَا مِن قَبۡلِكَ مِن رَّسُولٍ إِلَّا نُوحِيٓ إِلَيۡهِ أَنَّهُۥ لَآ إِلَٰهَ إِلَّآ أَنَا۠ فَٱعۡبُدُونِ
และเรามิได้ส่งร่อซูลคนใดก่อนหน้าเจ้า นอกจากเราได้วะฮียฺแก่เขาว่า แท้จริงไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากข้า ดังนั้นพวกเจ้าจงเคารพภักดีต่อข้า
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลนะหฺล อายะฮ์ที่ 36) :
وَلَقَدۡ بَعَثۡنَا فِي كُلِّ أُمَّةٖ رَّسُولًا أَنِ ٱعۡبُدُواْ ٱللَّهَ وَٱجۡتَنِبُواْ ٱلطَّٰغُوتَۖ
และโดยแน่นอน เราได้ส่งร่อซูลมาในทุกประชาชาติ (โดยบัญชาว่า) พวกท่านจงเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซุครุฟ อายะฮ์ที่ 45) :
وَسۡـَٔلۡ مَنۡ أَرۡسَلۡنَا مِن قَبۡلِكَ مِن رُّسُلِنَآ أَجَعَلۡنَا مِن دُونِ ٱلرَّحۡمَٰنِ ءَالِهَةٗ يُعۡبَدُونَ
และเจ้าจงถามผู้ที่เราได้ส่งมาก่อนจากบรรดาร่อซูลของเราว่า เราได้ตั้งพระเจ้าหลายองค์อื่นจากพระผู้ทรงกรุณาปรานี เพื่อเคารพบูชากระนั้นหรือ
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซาริยาต อายะฮ์ที่ 56) :
وَمَا خَلَقۡتُ ٱلۡجِنَّ وَٱلۡإِنسَ إِلَّا لِيَعۡبُدُونِ
และข้ามิได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า
——————— 🍀
▶ 15. อะไรคือข้อแตกต่างระหว่างเตาฮีดอัรรุบูบิยะฮ์ (الربوبية) กับเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ์ (الألوهية)
• เตาฮีดอัรรุบูบิยะฮ์ คือการกระทำของพระเจ้า เช่น การสร้าง การช่วยเหลือ การให้มีชีวิตและให้ตาย การประทานน้ำฝน ให้พืชผลงอกเงย และการบริหารจัดการสิ่งต่าง ๆ
• เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ์ คือการกระทำของบ่าวต่ออัลลอฮ์ เช่น การวิงวอน การเกรงกลัว ความหวังและการมอบหมาย และการกลับเนื้อกลับตัวสู่พระองค์ ความปรารถนา ความกลัว การบนบาน การขอความช่วยเหลือ และประเภทอื่น ๆ ของการอิบาดะฮ์
——————— 🍀
▶ 16. อะไรคือประเภทของการอิบาดะฮ์ (สักการะ) ที่เป็นสิทธิของอัลลอฮ์องค์เดียว
คือการวิงวอน การขอความช่วยเหลือ และการขอการสนับสนุนจากพระองค์ การบวงสรวงและการบนบาน ความเกรงกลัว ความหวัง การมอบหมาย และการกลับตัวต่อพระองค์ในทุกการกระทำผิด ความรัก ความปรารถนา ความกลัว และการเทิดเกียรติ การรุกั๊วและการสุญูด การนอบน้อม การให้ความยิ่งใหญ่ที่เป็นลักษณะเฉพาะสำหรับผู้เป็นเจ้า
——————— 🍀
▶ 17. อะไรคือคำสั่งใช้และคำสั่งห้ามที่สำคัญที่สุดจากอัลลอฮ์
คำสั่งใช้ที่สำคัญที่สุด คือการให้เอกภาพ (เตาฮีด) ในการเคารพสักการะต่อพระองค์ และคำสั่งห้ามที่สำคัญที่สุด คือการตั้งภาคีหรือให้มีหุ้นส่วนในการภักดีต่อพระองค์
——————— 🍀
▶ 18. อะไรคือสามสิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติตาม
(1) อัลลอฮ์สร้างพวกเรา และเป็นผู้ให้แก่เรา พระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งเราไว้เพียงลำพัง แต่ทว่า พระองค์ส่งศาสนทูตมายังเรา เพื่อบอกว่าใครก็ตามที่เชื่อฟังท่านจะได้เข้าสวรรค์ และใครที่ไม่เชื่อฟังท่านจะต้องลงนรก
(2) อัลลอฮ์ไม่อนุญาตให้ใครก็ตาม มีสิทธิในการถูกเคารพภักดีนอกจากพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นบรรดามลาอิกะฮ์ผู้ใกล้ชิด หรือศาสนทูตของพระองค์ก็ตาม
(3) ใครก็ตามที่เชื่อฟังต่อศาสนทูตของพระองค์ และสักการะในพระองค์แต่เพียงผู้เดียว ก็ไม่อนุญาตแก่เขาที่จะเป็นมิตร กับผู้ที่ต่อต้านอัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ แม้ว่าเขาจะเป็นญาติใกล้ชิดกันก็ตาม
——————— 🍀
▶ 19. อะไรคือความหมายของอัลลอฮ์ (الله)
ผู้ทรงสิทธิและควรค่าแก่การเคารพสักการะ โดยทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง
——————— 🍀
▶ 20. อัลลอฮ์สร้างพวกท่านมาเพื่อสิ่งใด
เพื่อเคารพสักการะต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว
——————— 🍀
▶ 21. อะไรคือการเคารพสักการะต่อพระองค์
เชื่อมั่นในการสักการะต่อพระองค์แต่เพียงผู้เดียว พร้อมทั้งปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์
——————— 🍀
▶ 22. อะไรคือหลักฐานของเรื่องนี้ (จากข้อ 20-21)
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซาริยาต อายะฮ์ที่ 56) :
وَمَا خَلَقۡتُ ٱلۡجِنَّ وَٱلۡإِنسَ إِلَّا لِيَعۡبُدُونِ
และข้าไม่ได้สร้างญิน และมนุษย์เพื่ออื่นใด เว้นแต่เพื่อเคารพภักดีต่อข้า
——————— 🍀
▶ 23. อะไรคือสิ่งแรกที่อัลลอฮ์บัญญัติแก่พวกเรา
การปฏิเสธฏอฆูต และศรัทธาต่ออัลลอฮ์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 256) :
لَآ إِكۡرَاهَ فِي ٱلدِّينِۖ قَد تَّبَيَّنَ ٱلرُّشۡدُ مِنَ ٱلۡغَيِّۚ فَمَن يَكۡفُرۡ بِٱلطَّٰغُوتِ
وَيُؤۡمِنۢ بِٱللَّهِ فَقَدِ ٱسۡتَمۡسَكَ بِٱلۡعُرۡوَةِ ٱلۡوُثۡقَىٰ لَا ٱنفِصَامَ لَهَاۗ وَٱللَّهُ سَمِيعٌ عَلِيمٌ
ไม่มีการบังคับใด ๆ (ให้นับถือ) ในศาสนาอิสลาม แน่นอน ความถูกต้องนั้น ได้เป็นที่กระจ่างแล้วจากความผิด ดังนั้นผู้ใดปฏิเสธศรัทธาต่ออัฏฏอฆูต (หมายถึง ปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำชี้นำของชัยฏอน) และศรัทธาต่ออัลลอฮ์แล้ว แน่นอนเขาได้ยึดห่วงอันมั่นคงไว้แล้ว โดยไม่มีการขาดใด ๆ เกิดขึ้นแก่มัน และอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยิน ผู้ทรงรอบรู้
——————— 🍀
▶ 24. อะไรคือห่วงอันแข็งแรงยิ่ง
คือ لاإله إلاالله โดยปฏิเสธการมีพระเจ้าอื่น คือปฏิเสธการมีผู้ที่มีสิทธิถูกสักการะหรือถูกอิบาดะฮ์อื่นทั้งหมด (لاإله) และยืนยันการเป็นพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวของอัลลอฮ์ (إلاالله)
——————— 🍀
▶ 25. อะไรคือการปฏิเสธและการยืนยันตรงนี้ (จากข้อ 24)
คือ การปฏิเสธสิ่งอื่นทุกสิ่งที่ถูกสักการะนอกเหนือจากอัลลอฮ์ และยืนยันการเคารพสักการะต่ออัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีหุ้นส่วนภาคีใด ๆ
——————— 🍀
▶ 26. อะไรคือหลักฐาน (จากข้อ 25)
หลักฐานการปฏิเสธ (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซุครุฟ อายะฮ์ที่ 26) :
وَإِذۡ قَالَ إِبۡرَٰهِيمُ لِأَبِيهِ وَقَوۡمِهِۦٓ إِنَّنِي بَرَآءٞ مِّمَّا تَعۡبُدُونَ
และจงรำลึกถึง เมื่ออิบรอฮีมได้กล่าวแก่บิดาของเขา และหมู่ชนของเขาว่า แท้จริง ฉันขอปลีกตัวจากสิ่งที่พวกท่านเคารพภักดี
หลักฐานการยืนยัน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซุครุฟ อายะฮ์ที่ 27) :
إِلَّا ٱلَّذِي فَطَرَنِي فَإِنَّهُۥ سَيَهۡدِينِ
นอกจาก (อัลลอฮ์) ซึ่งทรงบังเกิดฉันเท่านั้น เพราะแท้จริงพระองค์จะทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องแก่ฉัน
——————— 🍀
▶ 27. ฏอฆูต (الطواغيت) มีจำนวนเท่าใด
ฏอฆูตมีจำนวนมากมาย หัวหน้าของมันมี 5 ตัวด้วยกัน คือ
(1) อิบลีส ขออัลลอฮ์ทรงสาปแช่งพวกมัน
(2) ผู้ใดก็ตามที่ถูกสักการะ และเขาพึงใจในมัน
(3) ใครก็ตามที่เรียกร้องให้ผู้คนเคารพสักการะต่อเขา
(4) ใครก็ตามที่อวดอ้างว่ารู้ในสิ่งเร้นลับ
(5) ใครก็ตามที่ตัดสินด้วยสิ่งที่อัลลอฮ์มิได้ประทานลงมา
——————— 🍀
▶ 28. อะไรคือการกระทำที่ดีที่สุดหลังจากการกล่าวคำปฏิญาณทั้งสอง
การละหมาดฟัรฎู 5 เวลา
——————— 🍀
▶ 29. “พระองค์อัลลอฮ์จะให้มนุษย์ฟื้นคืนชีพหลังความตาย พระองค์จะทรงเรียกผู้คนมาเพื่อชำระความดีความชั่วของพวกเขา ใครที่เชื่อฟังพระองค์จะได้เข้าสวรรค์ และผู้ใดที่ปฏิเสธต่อพระองค์และทำให้มีหุ้นส่วนอื่นร่วมกับพระองค์จะต้องเข้านรก”
ใช่หรือไม่
ใช่
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัตตะฆอบุน อายะฮ์ที่ 7) :
زَعَمَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓاْ أَن لَّن يُبۡعَثُواْۚ قُلۡ بَلَىٰ وَرَبِّي لَتُبۡعَثُنَّ ثُمَّ لَتُنَبَّؤُنَّ بِمَا عَمِلۡتُمۡۚ وَذَٰلِكَ عَلَى ٱللَّهِ يَسِيرٞ
บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวอ้างว่า พวกเขาจะไม่ถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) หาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอสาบานต่อพระเจ้าของข้าพระองค์ พวกท่านจะถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน แล้วพวกท่านจะได้รับแจ้งตามที่พวกท่านได้ประกอบไว้ และนั่นเป็นการง่ายดายสำหรับอัลลอฮ์
และ หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 55) :
۞ مِنۡهَا خَلَقۡنَٰكُمۡ وَفِيهَا نُعِيدُكُمۡ وَمِنۡهَا نُخۡرِجُكُمۡ تَارَةً أُخۡرَىٰ
จากแผ่นดินได้บังเกิดพวกเจ้า และ ณ แผ่นดินนั้นเราจะให้พวกเจ้ากลับคืนไป และจากแผ่นดินนั้น เราจะให้พวกเจ้ากลับออกมาอีกครั้งหนึ่ง
(ในอัลกุรอานมีหลักฐานมากมายที่ไม่สามารถคำนวณนับได้เกี่ยวกับเรื่องนี้)
——————— 🍀
▶ 30. อะไรคือฮุก่ม ข้อชี้ขาดของผู้ที่เชือดสัตว์พลีเพื่อสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์
ถือว่าผู้นั้นคือผู้ที่ไม่ศรัทธา สิ้นสภาพการเป็นมุสลิม (มุรตัด) และสัตว์ที่ถูกเชือดก็ไม่เป็นที่อนุมัติที่จะรับประทาน ด้วยกับสองเหตุผล
การเชือดของบุคคลนอกศาสนา ไม่เป็นที่อนุมัติให้บริโภคโดยมติเอกฉันท์ (อิจมาอฺ)
การเชือด โดยกล่าวนามสิ่งอื่นนอกจากอัลลอฮ์ ไม่เป็นที่อนุมัติ ซึ่งอัลลอฮ์ตะอาลาทรงห้าม
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอันอาม อายะฮ์ที่ 145) :
قُل لَّآ أَجِدُ فِي مَآ أُوحِيَ إِلَيَّ مُحَرَّمًا عَلَىٰ طَاعِمٖ يَطۡعَمُهُۥٓ إِلَّآ أَن يَكُونَ مَيۡتَةً أَوۡ دَمٗا مَّسۡفُوحًا أَوۡ لَحۡمَ خِنزِيرٖ فَإِنَّهُۥ رِجۡسٌ أَوۡ فِسۡقًا أُهِلَّ لِغَيۡرِ ٱللَّهِ بِهِۦۚ فَمَنِ ٱضۡطُرَّ غَيۡرَ بَاغٖ وَلَا عَادٖ فَإِنَّ رَبَّكَ غَفُورٞ رَّحِيمٞ
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ฉันไม่พบว่าในสิ่งที่ถูกให้เป็นโองการแก่ฉันนั้น นอกจากสิ่งนั้นเป็นสัตว์ที่ตายเอง (รวมถึงสัตว์ที่มิได้เชือดตามบัญญัติศาสนาด้วย) หรือสัตว์ที่เลือดไหลออก (คือไหลออกมาขณะทำการเชือด) หรือเนื้อสุกร แท้จริงมันเป็นสิ่งโสมม หรือเป็นสิ่งละเมิด ซึ่งถูกเปล่งนามอื่นจากอัลลอฮ์ที่มัน ถ้าผู้ใดได้รับความคับขัน โดยมิใช่เป็นผู้แสวงหา และมิใช่ผู้ละเมิดแล้วไซร้ แท้จริงพระเจ้าของเจ้านั้น เป็นผู้ทรงอภัยโทษ เป็นผู้ทรงเอ็นดูเมตตา
——————— 🍀
▶ 31. อะไรคือประเภทของชิริก (الشرك)
ชิริก (การตั้งภาคี) มี 2 ประเภท คือ
(1) ชิริกใหญ่ คือ สิ่งที่ทำให้ออกจากศาสนาอิสลาม และ
(2) ชิริกเล็ก คือ สิ่งที่ไม่ถึงขั้นทำให้ออกจากศาสนาอิสลาม แต่เป็นประเภทหนึ่งของอันนิฟาก (การกลับกลอก)
——————— 🍀
▶ 32. อะไรคือประเภทของอันนิฟาก (النفاق) และความหมายของมัน
อันนิฟาก คือ การสัปปลับ กลับกลอก มี 2 ประเภท คือ
(1) นิฟากทางการอีหม่าน ประเภทนี้ถูกกล่าวไว้ในอัลกุรอานในหลายโองการ ซึ่งพวกกลับกลอกประเภทนี้จะอยู่ในนรกชั้นต่ำช้าที่สุด
(2) นิฟากทางพฤติกรรม ดังที่ท่านนะบี ﷺ ได้กล่าวไว้ว่า 4 ลักษณะนี้ ใครมีครบเขาคือมุนาฟิก (คนกลับกลอก) อย่างแท้จริง ส่วนใครมีบางลักษณะ ก็ถือว่าเขามีลักษณะของผู้กลับกลอกอยู่ จนกว่าเขาจะละทิ้งมัน คือ เมื่อพูดก็โกหก เมื่อสัญญาก็ทรยศ เมื่อโต้เถียงก็ใช้อารมณ์ เมื่อถูกไว้วางใจก็บิดพลิ้ว
อีกหะดีษหนึ่งท่านนะบี ﷺ กล่าวว่า
ลักษณะของพวกมุนาฟิกมี 3 ประการ คือ
(1) เมื่อพูดก็โกหก
(2) เมื่อสัญญาก็ผิดสัญญา
(3) เมื่อถูกไว้วางใจก็บิดพลิ้ว
——————— 🍀
▶ 33. อะไรคือความสำคัญอันดับที่สองของอิสลาม
อัลอีหม่าน (الإيمان) หรือการศรัทธา
——————— 🍀
▶ 34. การศรัทธา (อัลอีหม่าน) มีกี่แขนง
(บางรายงานว่า) มี 70 แขนง การศรัทธาที่สูงสุด คือ การกล่าว لاإله إلاالله และการศรัทธาที่ต่ำสุด คือ การนำสิ่งกีดขวางออกจากถนนหนทาง ความละอายก็เป็นแขนงหนึ่งของการศรัทธาเช่นกัน
——————— 🍀
35. รุก่นอีหม่านมีกี่ประการ
6 ประการ
(1) ศรัทธาต่ออัลลอฮ์
(2) ศรัทธาต่อมลาอิกะฮ์
(3) ศรัทธาต่อบรรดาคัมภีร์ของพระองค์
(4) ศรัทธาต่อบรรดาศาสนทูตของพระองค์
(5) ศรัทธาต่อวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
(6) ศรัทธาต่อการกำหนดสิ่งต่าง ๆ
——————— 🍀
▶ 36. อะไรคือความสำคัญอันดับที่สามของอิสลาม
อัลอิหฺซาน (الإحسان) คือ การสักการะต่ออัลลอฮ์เสมือนว่าท่านเห็นพระองค์ และแม้ว่าท่านไม่เห็นพระองค์ แต่แน่นอนพระองค์ทรงมองเห็นท่าน
——————— 🍀
▶ 37. มนุษย์จะถูกคิดบัญชีและได้รับการตอบแทนหลังจากการฟื้นคืนชีพ ใช่หรือไม่
ใช่
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อันนัจมฺ อายะฮ์ที่ 31) :
وَلِلَّهِ مَا فِي ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَمَا فِي ٱلۡأَرۡضِ لِيَجۡزِيَ ٱلَّذِينَ أَسَٰٓـُٔواْ بِمَا عَمِلُواْ وَيَجۡزِيَ ٱلَّذِينَ أَحۡسَنُواْ بِٱلۡحُسۡنَى
และสิ่งที่อยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย และสิ่งที่อยู่ในแผ่นดินนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ เพื่อพระองค์จะทรงตอบแทนบรรดาผู้กระทำความชั่วตามที่พวกเขาประพฤติ และจะทรงตอบแทนบรรดาผู้กระทำความดีด้วยความดี
——————— 🍀
▶ 38. อะไรคือฮุก่ม ข้อชี้ขาดของผู้ที่ไม่ศรัทธาต่อวันแห่งการฟื้นคืนชีพ
เขาคือผู้ปฏิเสธศรัทธา (กาฟิร)
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัตตะฆอบุน อายะฮ์ที่ 7) :
زَعَمَ ٱلَّذِينَ كَفَرُوٓاْ أَن لَّن يُبۡعَثُواْۚ قُلۡ بَلَىٰ وَرَبِّي لَتُبۡعَثُنَّ ثُمَّ لَتُنَبَّؤُنَّ بِمَا عَمِلۡتُمۡۚ وَذَٰلِكَ عَلَى ٱللَّهِ يَسِيرٞ
บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธากล่าวอ้างว่า พวกเขาจะไม่ถูกฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) หาเป็นเช่นนั้นไม่ ขอสาบานต่อพระเจ้าของข้าพระองค์ พวกท่านจะถูกให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกอย่างแน่นอน แล้วพวกท่านจะได้รับแจ้งตามที่พวกท่านได้ประกอบไว้ และนั่นเป็นการง่ายดายสำหรับอัลลอฮ์
——————— 🍀
▶ 39. มีประชาชาติใดก่อนหน้า ที่อัลลอฮ์ไม่ส่งศาสนทูตเพื่อเรียกร้องเชิญชวนสู่พระองค์หรือไม่
ไม่มี
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลนะหฺลฺ อายะฮ์ที่ 36) :
وَلَقَدۡ بَعَثۡنَا فِي كُلِّ أُمَّةٖ رَّسُولًا أَنِ ٱعۡبُدُواْ ٱللَّهَ وَٱجۡتَنِبُواْ ٱلطَّٰغُوتَۖ
และโดยแน่นอน เราได้ส่งร่อซูลมาในทุกประชาชาติ (โดยบัญชาว่า) พวกท่านจงเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ และจงหลีกหนีให้ห่างจากพวกเจว็ด
——————— 🍀
▶ 40. อะไรคือประเภทของเตาฮีด (التوحيد)
(1) เตาฮีดอัรรุบูบียะฮ์ คือเตาฮีดที่พวกปฏิเสธ (มุชริกีน) ยอมรับกัน
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ยูส อายะฮ์ที่ 31) :
قُلۡ مَن يَرۡزُقُكُم مِّنَ ٱلسَّمَآءِ وَٱلۡأَرۡضِ أَمَّن يَمۡلِكُ ٱلسَّمۡعَ وَٱلۡأَبۡصَٰرَ وَمَن يُخۡرِجُ ٱلۡحَيَّ مِنَ ٱلۡمَيِّتِ
وَيُخۡرِجُ ٱلۡمَيِّتَ مِنَ ٱلۡحَيِّ وَمَن يُدَبِّرُ ٱلۡأَمۡرَۚ فَسَيَقُولُونَ ٱللَّهُۚ فَقُلۡ أَفَلَا تَتَّقُونَ
จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) ใครเป็นผู้ประทานปัจจัยยังชีพที่มาจากฟากฟ้าและแผ่นดินแก่พวกท่าน หรือใครเป็นเจ้าของการได้ยินและการมอง และใครเป็นผู้ให้มีชีวิตหลังจากการตายและเป็นผู้ให้ตายหลังจากมีชีวิตมา และใครเป็นผู้บริหารกิจการ แล้วพวกเขากล่าวกันว่าอัลลอฮ์ ดังนั้นจงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) พวกท่านไม่ยำเกรงหรือ
(2) เตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ์ คือการทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะคำว่า อิลาฮ์ (พระเจ้า) ในภาษาอาหรับ หมายถึง ผู้ที่ถูกเคารพสักการะ พวกกุฟฟารได้กล่าวว่า แท้จริง อัลลอฮ์คือพระเจ้าแห่งเจ้าทั้งหลาย แต่ทว่าพวกเขากลับไปยึดอื่น ๆ เทียบเคียงกับอัลลอฮ์ เช่น คนซอและฮ์ มลาอิกะฮ์ และอื่น ๆ พร้อมกับกล่าวว่า อัลลอฮ์ทรงพอพระทัยเช่นนี้ และพวกเจ้าต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยไถ่โทษให้กับพวกเรา ณ ที่อัลลอฮ์
(3) เตาฮีดอัซมาอวัซซิฟาต คือให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ในพระนามต่าง ๆ และคุณลักษณะตามที่พระองค์ทรงบอกไว้
ซึ่งเตาฮีดรุบูบียะฮ์และเตาฮีดอัลอุลูฮียะฮ์ จะยังไม่สมบูรณ์
นอกจากต้องยอมรับในเตาฮีดประเภทที่สามนี้ด้วย
——————— 🍀
▶ 41. อะไรที่เราควรกระทำเมื่ออัลลอฮ์สั่งใช้ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ท่านจะต้องยึดถือปฏิบัติตามลำดับขั้น 7 ขั้นดังนี้
(1) รู้จักมันให้ถูกต้อง
(2) รักที่จะทำมัน
(3) มีความตั้งใจจริงที่จะทำ
(4) ลงมือทำ
(5) ทำในสิ่งที่มีบัญญัติ ด้วยความบริสุทธิ์ใจและถูกต้องตามที่มีบัญญัติ
(6) ระมัดระวังอย่าทำสิ่งใดที่จะส่งผลให้การงานนั้นไร้ผล
(7) มีความมั่นคงสม่ำเสมอที่จะทำ
——————— 🍀
▶ 42. หากผู้หนึ่งผู้ใดทราบว่าอัลลอฮ์สั่งใช้สักการะต่อพระองค์เพียงองค์เดียว และออกห่างจากการตั้งภาคี ทั้ง 7 ขั้นตอนนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่เขาต้องถือปฏิบัติหรือไม่
ใช่ ทั้ง 7 ขั้นตอนนั้น เขาต้องปฏิบัติ
——————— 🍀
▶ 43. อะไรคือการปฏิเสธ (الكفر) และประเภทของมัน
การปฏิเสธมี 2 ประเภท คือ
• 1. การปฏิเสธใหญ่ ที่ทำให้ออกจากอิสลาม มี 5 ประการ คือ
(1.1) การปฏิเสธโองการของพระองค์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอันอาม อายะฮ์ที่ 21) : และผู้ใดเล่า คือผู้อธรรมยิ่งกว่าผู้ที่อุปโลกน์ความเท็จให้แก่อัลลอฮ์ หรือปฏิเสธบรรดาโองการของพระองค์ แท้จริงบรรดาผู้อธรรมนั้นจะไม่ได้รับความสำเร็จ
(1.2) การอวดดีต่อดำรัสของพระองค์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 34) :
وَإِذۡ قُلۡنَا لِلۡمَلَٰٓئِكَةِ ٱسۡجُدُواْ لِأٓدَمَ فَسَجَدُوٓاْ إِلَّآ إِبۡلِيسَ أَبَىٰ وَٱسۡتَكۡبَرَ وَكَانَ مِنَ ٱلۡكَٰفِرِينَ
และจงรำลึกถึง ขณะที่เราได้กล่าวแก่มลาอิกะฮ์ว่า พวกเจ้าจงสุญูดแก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็สุญูดกัน นอกจากอิบลีส (เป็นต้นตอแห่งเชื้อสายของชัยฏอน และชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ฝ่าฝืนและดื้อดึงจากพวกญิน) โดยที่มันไม่ยอมสุญด และแสดงโอหัง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพแห่งการศรัทธา (กาฟิรฺ)
(1.3) การสงสัย คือการปฏิเสธแบบคิดเอาเอง
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟฺ อายะฮ์ที่ 35-37) :
وَدَخَلَ جَنَّتَهُۥ وَهُوَ ظَالِمٞ لِّنَفۡسِهِۦ قَالَ مَآ أَظُنُّ أَن تَبِيدَ هَٰذِهِۦٓ أَبَدٗا 35
وَمَآ أَظُنُّ ٱلسَّاعَةَ قَآئِمَةٗ وَلَئِن رُّدِدتُّ إِلَىٰ رَبِّي لَأَجِدَنَّ خَيۡرٗا مِّنۡهَا مُنقَلَبٗا 36
قَالَ لَهُۥ صَاحِبُهُۥ وَهُوَ يُحَاوِرُهُۥٓ أَكَفَرۡتَ بِٱلَّذِي خَلَقَكَ مِن تُرَابٖ ثُمَّ مِن نُّطۡفَةٖ ثُمَّ سَوَّىٰكَ رَجُلٗا 37
เขาได้เข้าไปในสวนของเขาโดยที่เขาเป็นผู้อธรรมแก่ตัวเขาเอง เขากล่าวว่า ฉันไม่คิดว่าสวนนี้จะพินาศไปได้เลย และฉันไม่คิดว่าวันอวสานของโลกจะมีขึ้น และหากว่าฉันจะถูกกลับไปยังพระผู้เป็นเจ้าของฉัน แน่นอน ฉันจะพบที่กลับที่ดียิ่งกว่านี้ เพื่อนของเขากล่าวแก่เขาขณะที่กำลังโต้เถียงกันอยู่ว่า ท่านเนรคุณต่อพระผู้สร้างท่านจากดิน แล้วจากเชื้ออสุจิ แล้วพระองค์ทรงทำให้ท่านเป็นคนโดยสมบูรณ์ กระนั้นหรือ
(1.4) การผินหลัง
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอะฮ์ก็อฟ อายะฮ์ที่ 3) :
وَٱلَّذِينَ كَفَرُواْ عَمَّآ أُنذِرُواْ مُعۡرِضُونَ
แต่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาเป็นผู้ผินหลังให้จากสิ่งที่พวกเขาถูกตักเตือน
(1.5) การกลับกลอก สัปปลับ (นิฟาก)
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลมุนาฟิกูน อายะฮ์ที่ 3) :
ذَٰلِكَ بِأَنَّهُمۡ ءَامَنُواْ ثُمَّ كَفَرُواْ فَطُبِعَ عَلَىٰ قُلُوبِهِمۡ فَهُمۡ لَا يَفۡقَهُونَ
นั่นเป็นเพราะพวกเขาศรัทธาแล้วก็ปฏิเสธศรัทธา ดังนั้นจึงถูกผนึกบนหัวใจของพวกเขา แล้วพวกเขาก็ไม่เข้าใจ
• 2. การปฏิเสธเล็ก ที่ไม่ทำให้ออกจากศาสนา
คือ การปฏิเสธต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลนะหฺลฺ อายะฮ์ที่ 112) :
وَضَرَبَ ٱللَّهُ مَثَلٗا قَرۡيَةٗ كَانَتۡ ءَامِنَةٗ مُّطۡمَئِنَّةٗ يَأۡتِيهَا رِزۡقُهَا رَغَدٗا مِّن كُلِّ مَكَانٖ
فَكَفَرَتۡ بِأَنۡعُمِ ٱللَّهِ فَأَذَٰقَهَا ٱللَّهُ لِبَاسَ ٱلۡجُوعِ وَٱلۡخَوۡفِ بِمَا كَانُواْ يَصۡنَعُونَ
และอัลลอฮ์ทรงยกอุทาหรณ์ เมืองหนึ่งซึ่งปลอดภัยและสงบ ปัจจัยยังชีพของมันมีมาอย่างอุดมสมบูรณ์ทุกแห่งหน แล้วมันก็ปฏิเสธต่อความโปรดปรานของอัลลอฮ์ (ไม่ขอบคุณต่ออัลลอฮ์ ในสิ่งที่พระองค์ทรงประทานเป็นปัจจัยยังชีพและความดีงามต่าง ๆ แก่พวกเขา) ดังนั้น อัลลอฮ์จึงทรงทำให้มันลิ้มรสความรู้สึกแห่งความหิวและความกลัว ตามที่พวกเขาได้เคยกระทำไว้
และ หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อิบรอฮีม อายะฮ์ที่ 34) : แท้จริงมนุษย์นั้นอธรรมยิ่ง เนรคุณยิ่ง
——————— 🍀
▶ 44. อะไรคือการตั้งภาคี (الشرك) และประเภทของมัน
ชิริกคือสิ่งที่ตรงข้ามกับเตาฮีด คือการตั้งสิ่งอื่นขึ้นมาเป็นหุ้นส่วนกับอัลลอฮ์
มี 3 ประเภท คือ
(1) ชิริกใหญ่ (شرك أكبر)
(2) ชิริกเล็ก (شرك أصغر) และ
(3) ชิริกซ่อนเร้น (شرك خفي)
ชิริกใหญ่ มี 4 ประการ คือ
ประการแรก เช่น การวิงวอนขอต่อสิ่งอื่นจากอัลลอฮ์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอังกะบูต อายะฮ์ที่ 65) :
ดังนั้นเมื่อเขาขึ้นขี่เรือ พวกเขาวิงวอนต่ออัลลอฮ์ เป็นผู้บริสุทธิ์ใจในการขอพรต่อพระองค์ ครั้นเมื่อพระองค์ทรงช่วยเขาให้ขึ้นบก แล้วพวกเขาก็ตั้งภาคีต่อพระองค์
ประการที่สอง ชิริกในด้านเจตนา ความต้องการ ความมุ่งหมาย
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฮูด อายะฮ์ที่ 15-16) :
ผู้ใดปรารถนาการมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และความเพริศแพร้วของมัน
(บุคคลประเภทนี้ไม่มีความเชื่อมั่นในโลกอาคิเราะฮ์)
เราก็จะตอบแทนให้พวกเขาอย่างครบถ้วน ซึ่งการงานของพวกเขาในโลกนี้เท่านั้น และพวกเขาจะไม่ถูกลิดรอนในการงานแต่อย่างใด
ประการที่สาม ชิริกในด้านการเชื่อฟัง การปฏิบัติตาม
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัตเตาบะฮ์ อายะฮ์ที่ 31) :
พวกเขาได้ยึดเอาบรรดานักปราชญ์ของพวกเขา และบรรดาบาทหลวงของพวกเขาเป็นพระเจ้าอื่นจากอัลลอฮ์ และยึดเอาอัล-มะซีหฺบุตรของมัรยัมเป็นพระเจ้าด้วย ทั้ง ๆ ที่พวกเขามิได้ถูกสั่งใช้นอกจากเพื่อเคารพสักการะผู้ที่สมควรได้รับการสักการะ (หมายถึงอัลลอฮ์) แต่เพียงองค์เดียว ซึ่งไม่มีผู้ใดควรได้รับการเคารพสักการะนอกจากพระองค์เท่านั้น พระองค์ทรงบริสุทธิ์จากสิ่งที่พวกเขาให้มีภาคีขึ้น
ประการที่สี่ ชิริกในด้านความรัก
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 165) :และในหมู่มนุษย์นั้น มีผู้ที่ยึดถือบรรดาภาคีอื่นจากอัลลอฮ์ ซึ่งพวกเขารักภาคีอื่นเหล่านั้นเช่นเดียวกับรักอัลลอฮ์ แต่บรรดาผู้ศรัทธานั้นเป็นผู้ที่รักอัลลอฮ์มากยิ่งกว่า และหากบรรดาผู้อธรรมจะได้เห็น ขณะที่พวกเขาเห็นการลงโทษอยู่นั้น (แน่นอนพวกเขาจะต้องตระหนักดีว่า) แท้จริงอัลลอฮ์นั้นเป็นผู้ทรงลงโทษที่รุนแรง
ชิริกเล็ก คือการโอ้อวด
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟ อายะฮ์ที่ 110) :
ผู้ใดหวังจะพบพระผู้เป็นเจ้าของเขา (หวังที่จะได้รับผลบุญการตอบแทน และกลัวการลงโทษของพระองค์) ก็ให้เขาประกอบการงานที่ดี (คือให้มีความบริสุทธิ์ในการอิบาดะฮ์ต่อพระองค์)
และอย่าเป็นผู้ตั้งภาคีในการเคารพภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาเลย (คืออย่าอวดอ้างในผลงานของเขา และอย่าหวังในสิ่งที่เขาได้กระทำไปเพื่อใครอื่น นอกจากเพื่อพระพักตร์ของอัลลอฮ์ และเพื่อความโปรดปรานของพระองค์)
และ ชิริกซ่อนเร้น
หลักฐาน (จากหะดีษของท่านนะบี รายงานโดยเชคบินบาซ) :
ชิริกที่เกิดขึ้นกับประชาชาตินี้ ถูกซ่อนเร้นไว้ยิ่งกว่าการก้าวเดินของมดดำ บนพื้นสีดำ ในความมืดมิด ในเวลากลางคืนเสียอีก
——————— 🍀
▶ 45. อะไรคือความหมายของก่อฎอก่อดัร
อัลก่อดัร (กฎสภาวะ) รากฐานเดิมคือคำกริยา คำว่า ก่อดะร่อ (แปลว่าสามารถ) ต่อมาถูกนำไปใช้ในความหมายว่า อัตตักดีร (กำหนดสภาพการณ์) คือการแจกแจงการสาธยายอย่างละเอียดถี่ถ้วน และถูกนำไปใช้ส่วนใหญ่หมายถึงการกำหนดสิ่งต่าง ๆ ของอัลลอฮ์ต่อสิ่งถูกสร้างทั้งมวลก่อนที่มันจะเกิดขึ้นมา
ส่วนคำว่า อัลก่อฎออฺ ถูกใช้ในด้านการเป็นอยู่หรือสิ่งที่จะเกิดขึ้น
บางครั้งมีความหมายว่า การให้เป็นไปของสรรพสิ่งทั้งมวล ตามที่กำหนดเอาไว้หรือบางครั้งก็มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า อัลก่อดัร
ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัน-นิซาอฺ อายะฮ์ที่ 65) : แล้วพวกเขาไม่พบความคับใจใด ๆ ในจิตใจของพวกเขาจากสิ่งที่เจ้าได้ตัดสินไป และพวกเขายอมจำนนด้วยดี (คือมีใจเห็นชอบตามท่านนะบีตัดสินทุกอย่าง เช่นนี้พวกเขาจึงอยู่ในฐานะผู้ศรัทธา)
และอัลก่อฎออฺ อาจจะแสดงออกถึงความสมบูรณ์หรือเสร็จสิ้น (ของการละหมาด) ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลญุมุอะฮ์ อายะฮ์ที่ 10) : ต่อเมื่อการละหมาดได้สิ้นสุดลงแล้ว
หรืออาจออกมาบนการกระทำ ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า :
(จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 72) : ท่านจงกระทำตามสิ่งที่ท่านต้องการจะกระทำเถิด
หรืออาจออกมาบนการบอกกล่าวบางอย่าง ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัซซุครุฟ อายะฮ์ที่ 77) :
โอ้ มาลิก (ยามเฝ้าประตูนรก) โปรดให้พระเจ้าของท่านจัดการให้เราตายเสียเถิด
หรืออาจมีขึ้นบนการลงโทษ ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า :
(จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 72) : และกิจการได้ถูกตัดสิน (คือพระบัญชาของอัลลอฮ์เสร็จสิ้นสมบูรณ์ด้วยการจมน้ำของผู้ที่จมน้ำ และการรอดพ้นของผู้ที่รอดพ้น)
หรืออาจมีขึ้นบนความสมบูรณ์หรือเสร็จสิ้นของสิ่งหนึ่ง
ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฏอฮา อายะฮ์ที่ 114) : และเจ้าอย่ารีบเร่งในการอ่านอัลกุรอาน ก่อนที่วะฮียฺของพระองค์จะจบลง (คือเมื่อญิบรีลได้อ่านอัลกุรอานแก่สูเจ้า สูเจ้าอย่ารีบเร่งอ่านพร้อมกับเขา จงฟังเขาและอดทนรอจนกระทั่งเขาอ่านเสร็จ แล้วสูเจ้าก็อ่านมัน)
หรืออาจมีขึ้นบนการสร้างของอัลลอฮ์ ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ฟุศศิลัต อายะฮ์ที่ 12) :
ดังนั้น พระองค์ทรงสร้างมันสำเร็จเป็นชั้นฟ้าทั้งเจ็ด
หรือาจมีขึ้นบนการตั้งวาง (กำหนด) ไว้แล้วของอัลลอฮ์ ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์มัรยัม อายะฮ์ที่ 21) : และนั่นเป็นกิจการที่ถูกกำหนดไว้แล้ว
หรืออาจมีบนบัญญัติทางศาสนา ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า :
(จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ยูซุฟ อายะฮ์ที่ 40) : พระองค์ทรงใช้มิให้พวกท่านเคารพอิบาดะฮ์สิ่งใด นอกจากพระองค์เท่านั้น
หรืออาจมีขึ้นบนความหมายของการกระทำ ดังที่อัลลอฮ์ตะอาลา กล่าวว่า : (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัล-บะเกาะเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 200) : ครั้นเมื่อพวกเจ้าประกอบพิธีฮัจญ์ของพวกเจ้าเสร็จแล้ว
——————— 🍀
▶ 46. การกระทำทั้งดีและไม่ดี ทั้งหมดมาจากอัลลอฮ์ใช่หรือไม่
ถูกต้อง การกระทำทั้งดีและไม่ดี ทั้งหมดมาจากอัลลอฮ์
ในหะดีษที่รายงานโดยท่านอะลีย์ ร่อดิยัลลอฮุอันฮุ ได้เล่าว่า ครั้งหนึ่งขณะที่เราอยู่ที่สุสานบะเกี๊ยะอัลฆ็อรก็อด ทันใดนั้นท่านร่อซูลได้มาหาพวกเราและนั่งลง พวกเราจึงนั่งล้อมท่าน และท่านมีไม้ติดมือมาด้วย จากนั้นท่านก็นั่งก้มหน้าและใช้ไม้ขีดเขียนไปมาบนพื้นและกล่าวขึ้นว่า
“ ไม่มีคนใดในหมู่พวกท่านที่ชีวิตถูกสร้างขึ้นมา เว้นแต่ว่าอัลลอฮ์จะทรงบันทึก (กำหนด) ตำแหน่งของเขาไว้แล้วว่าอยู่ในสวรรค์หรือในนรก กำหนดไว้แล้วว่าเขาจะมีสภาพที่ทุกข์ระทมหรือมีความสุขารมณ์ ”
ทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งได้ถามขึ้นว่า : “ ถ้าแบบนี้เราก็อาศัยบันทึกของเราโดยที่เราไม่ต้องทำการงานอะไรเลย จะได้ไหม? ”
ท่านนะบี ﷺ จึงตอบว่า ผู้ใดที่ถูกบันทึกเป็นชาวสวรรค์ เขาก็ทำการงานของชาวสวรรค์ ผู้ใดถูกบันทึกเป็นชาวนรก เขาก็จะทำการงานของชาวนรก
จากนั้นท่านนะบีก็ได้อ่านโองการที่ 5-10 ของซูเราะฮ์อัลลัยลฺ ว่า :
ส่วนผู้ที่บริจาคและยำเกรง (อัลลอฮ์) และเชื่อมั่นสิ่งที่ดี เราก็จะให้เขาได้รับความสะดวกอย่างง่ายดาย (อายะฮ์นี้คือคำตอบของการสาบาน คือ การงานของพวกเจ้านั้นย่อมแตกต่างกันออกไป เช่น บางคนมีความยำเกรง บางคนก็มีความทุกข์ บางคนก็เป็นคนดี บางคนก็เป็นคนเลว นั่นก็คือผู้ที่บริจาคเงินทองของเขาไปในหนทางของอัลลอฮ์ มีความยำเกรงพระเจ้าของเขา และระงับจากการกระทำในสิ่งที่ต้องห้าม และมีความเชื่อมั่นต่อสวนสวรรค์ที่อัลลอฮ์ทรงเตรียมไว้ สำหรับบรรดาผู้ทรงคุณธรรมแล้วเราก็จะแผ้วทางให้เขาปฏิบัติความดี คือให้เขามีความสะดวกง่ายดายในการปฏิบัติสิ่งที่เป็นการจงรักภักดีและละทิ้งสิ่งต้องห้ามต่าง ๆ) และผู้ที่ตระหนี่และถือว่ามีความพอเพียงแล้ว และปฏิเสธสิ่งที่ดีงาม เราก็จะให้เขาได้รับความลำบากอย่างง่ายดาย (ส่วนผู้ที่ตระหนี่เงินทองและถือว่าพอเพียงแล้วในการทำอิบาดะฮ์ต่ออัลลอฮ์ และปฏิเสธการมีสวนสวรรค์ และความสุขในสวนสวรรค์ เราก็จะทำให้เขาได้รับความลำบาก คือการมีชีวิตอยู่อย่างเลวร้ายทั้งในโลกดุนยาและโลกอาคิเราะฮ์)
ในหะดีษหนึ่ง ท่านนะบี ﷺ ตอบว่า “พวกท่านจงปฏิบัติการงาน (ไปตามหน้าที่ที่ถูกบัญชาใช้เถิด) เพราะทุก ๆ คนนั้น จะเดินไปตามทางของตัวเองที่ถูกกำหนด ชาวสวรรค์เขาก็จะทำการงานของชาวสวรรค์ ชาวนรกเขาก็จะทำการงานของชาวนรก ”
——————— 🍀
▶ 47. อะไรคือความหมายของ لاإله إلاالله
ไม่มีพระเจ้าที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะที่เที่ยงแท้อื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ (คำว่า لاإله ไม่มีพระเจ้าที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะที่เที่ยงแท้อื่นใด และ إلاالله นอกจากอัลลอฮ์)
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลอิสรออฺ อายะฮ์ที่ 23) : และพระเจ้าของเจ้าบัญชาว่า พวกเจ้าอย่าเคารพภักดีผู้ใดนอกจากพระองค์เท่านั้น
——————— 🍀
▶ 48. อะไรคือสิ่งที่อัลลอฮ์สั่งใช้บ่าวของพระองค์ ก่อนกระทำละหมาด และถือศีลอด
การให้ความเป็นหนึ่งเดียวของการเคารพสักการะ ; ไม่วอนขอต่อสิ่งอื่น นอกเหนือจากอัลลอฮ์แต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีหุ้นส่วนใด ๆ ไม่วอนขอต่อท่านนะบีหรือผู้อื่น
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลญิน อายะฮ์ที่ 18) : และว่าแท้จริงบรรดามัสยิดนั้นเป็นของอัลลอฮ์ ดังนั้น พวกเจ้าอย่าวิงวอนขอผู้ใดเคียงคู่กับอัลลอฮ์
——————— 🍀
▶ 49. สิ่งใดประเสริฐกว่ากัน ระหว่าง; คนจนที่อดทน หรือ คนรวยที่ขอบคุณ
เรื่องความรวย ความจน ทั้งผู้อดทนและผู้ขอบคุณ ต่างเป็นผู้ประเสริฐของบรรดาผู้ศรัทธา แต่สิ่งที่ดีกว่า คือการตักวา การยำเกรง การปฏิบัติตามคำบัญชาใช้ของพระองค์
หลักฐาน (จากคัมภีร์อัลกุรอาน ซูเราะฮ์อัลหุญุร๊อต อายะฮ์ที่ 13) : แท้จริงผู้ที่มีเกียรติยิ่งในหมู่พวกเจ้า ณ ที่อัลลอฮ์นั้น คือผู้ยำเกรงยิ่งในหมู่พวกเจ้า (ผู้ที่มีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮ์ คือผู้มีความยำเกรงพระองค์มากที่สุด ผู้ที่รักษาขอบเขตและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์)
——————— 🍀
▶ 50. สิ่งใดกันที่ท่านจะแนะนำต่อเรา
ฉันขอแนะนำ และกระตุ้นให้พวกท่าน ให้ความสำคัญกับอัตเตาฮีด เพราะมันจะแจกแจงสาธยายข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่อัลลอฮ์ทรงส่งศาสนทูตของพระองค์มา และอธิบายถึงข้อเท็จจริงของชิริกที่อัลลอฮ์และศาสนทูตของพระองค์ทรงห้าม และแจ้งให้ทราบว่าชิริกนั้น เป็นสิ่งที่พระองค์จะไม่อภัยโทษให้ และสวรรค์นั้น เป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับผู้ที่ตั้งภาคีต่อพระองค์ และการงานของเขาทั้งหมดนั้นจะมลายสิ้น
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความรู้ในเรื่องของอัตเตาฮีด เพราะมันเป็นเหตุผลที่พระองค์อัลลอฮ์ทรงส่งศาสนทูตของพระองค์มา และเมื่อได้เข้าใจเตาฮีดแล้ว ถือว่าเขาคือมุสลิมที่แท้จริงที่แยกตัวออกจากการตั้งภาคีและพวกตั้งภาคีทั้งหลาย
——————— 🍀